ค่าย ตงเชิง มอเตอร์ฯ ศึกษาตลาดขนส่งไทยมากว่า 1 ปี เพื่อรุกตลาดขนส่งไทยครั้งใหญ่ ร่วมทุนวอลโว่กว่า 50% เพื่อใช้เทคโนโลยีในการประกอบ เริ่มจากนำความต้องการของลูกค้าเก่ากว่า 1,000 ราย เพื่อให้บริษัทแม่ทำความต้องการให้ได้มากสุด ส่วนแผนสองร่วมทุนตั้งดีลเลอร์ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจบริการหลังการขายเต็มที่ พร้อมแผนใหญ่ตั้งโรงงานทั้งประกอบรถใหญ่และผลิตชิ้นส่วนเพื่อส่งออกไปในแถบอาเซียน
คุณซู้ เหย่ ผู้จัดการธุรกิจ บริษัท ตงเชิง มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถใหญ่ตงฟง ประเทศจีน เปิดเผยว่า ด้วยระยะเวลากว่า 1 ปี ที่มาตั้งบริษัทในเมืองไทย มีจุดประสงค์ที่จะศึกษาความต้องการของตลาดขนส่ง เพื่อให้ทางบริษัทฯ สามารถทำตามความต้องการได้มากสุด รวมถึงทำการฟื้นตลาดรถใหญ่ตงฟง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว และสามารถจำหน่ายได้มากกว่า 1,000 คัน เมื่อทราบถึงความต้องการของลูกค้าเก่าว่าสิ่งใดบ้างที่ช่วยทำให้การขนส่งได้จะพัฒนาขึ้น ก็จะนำสิ่งดังกล่าวนี้ไปให้กับบริษัทแม่ได้ทราบ เพื่อจะได้ทำให้ตรงกับความต้องการให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ร่วมทุนตั้งดีลเลอร์ทั่วประเทศ
ด้วยทางบริษัทฯ ได้มีสำนักงานใหญ่พร้อมศูนย์บริการตั้งอยู่ที่คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งพร้อมให้บริการได้แล้ว รวมถึงได้มีแผนการที่จะเปิดดีลเลอร์ตามภูมิภาคต่าง ๆ ให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยทางบริษัทฯ จะต้องทำการร่วมทุนกับดีลเลอร์ทุกแห่งด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการให้บริการหลังการขายได้เต็มที่
ส่วนลูกค้าเป้าหมายรายแรกของบริษัทฯ ก็ได้มีหน่วยงานของทางราชการได้เข้ามาติดต่อซื้อไว้แล้ว แต่ยังคงดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะผ่านสินเชื่อจากธนาคาร การทำประกันภัยชั้น 1 จากบริษัทประกันภัย หากทุกอย่าง
ผ่านเรียบร้อยแล้วก็จะมีการเปิดตัวให้ทราบว่าลูกค้ารายแรกคือใคร
วอลโว่คือผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้
เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทแม่ที่ประเทศจีน ได้ทำการร่วมทุนกับทางวอลโว่ ประเทศสวีเดน เพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีต่าง ๆ ในการประกอบให้แก่กัน ดังนั้นรถใหญ่ตงฟง ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน เพื่อจำหน่ายให้ตลาดขนส่ง ก็ถือว่าเป็นรถที่มีคุณภาพเหมือนกับรถใหญ่จากค่ายยุโรปทุกประการ แต่มีราคาจำหน่ายที่ต่ำกว่าค่ายรถญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มหลักที่ทางบริษัทฯ ต้องเจาะเข้าไปให้ได้
ให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน
ด้วยแผนการของรัฐบาลไทยที่จะทำให้การขนส่งในเมืองไทยเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มอาเซียน ทางบริษัทฯ จึงได้วางแผนที่จะให้เมืองไทยเป็นฐานการประกอบรถใหญ่ตงฟง เพื่อการส่งออกไปในกลุ่มอาเซียนด้วย โดยขณะนี้ได้คาดว่าจะเช่าพื้นที่ในอำเภอวังน้อย จ.อยุธยา เพื่อตั้งเป็นโรงงานประกอบ ทั้งเพื่อประกอบรถใหญ่และผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ด้วย ทั้งนี้เพื่อที่จะได้จำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกด้วย แต่สำหรับพื้นที่นั้นในขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ 100% หากหาพื้นที่อื่นที่เหมาะสมกว่าได้ก็อาจจะเปลี่ยนใจไปตั้งโรงงานประกอบและผลิตชิ้นส่วนที่นั่นเมื่อไรก็ได้
ปี 60 ต้องขายอย่างน้อย 500 คัน
ด้วยมาตรฐานของการประกอบรถใหญ่ตงฟง ที่จำหน่ายในประเทศจีนและเพื่อส่งออกไปยังเมืองไทยนั้น มีมาตรฐานที่ต่างกัน เพราะน้ำหนักบรรทุกในเมืองจีนมากกว่า ดังนั้นรถใหญ่ในเมืองไทยจึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นตลาดใหม่ที่ต้องทำให้มียอดขายเติบโตขึ้นในเร็ววันให้มากที่สุด ดังนั้นรถบรรทุก 10 ล้อ ที่มุ่งมั่นจะขายให้ได้มากที่สุดในเมืองไทย โดยในปีแรกคือปี 2560 ตั้งเป้าว่าจะต้องขายให้ได้ 500-800 คัน เป็นอย่างน้อย และหากรักษามาตรฐานของการขายได้ในปีถัดไป ก็มีแผนที่จะตั้งโรงงานประกอบในทันที ส่วนรถเพื่อกิจการพิเศษนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถมิกเซอร์หรือรถเก็บขยะ กลุ่มลูกค้าก็ต้องเขียนสเปคมาเป็นการเฉพาะ เพื่อให้ทางโรงงานที่ประเทศจีนเป็นผู้ประกอบให้ตรงตามความต้องการ
BUS & TRUCK ’16 เปิดตัวเต็มที่
สำหรับงาน BUS & TRUCK ’16 ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทฯ เข้างานแสดงรถใหญ่ในเมืองไทย และก็ได้ช่วยแนะวิธีการตลาดให้ทราบเป็นอย่างมาก เพราะทางบริษัทฯ ได้นำพนักงานชาวจีนเข้าไปเพื่อพบปะกับกลุ่มลูกค้า และก็ไม่สามารถทำการสื่อสารถึงความต้องการของลูกค้าได้เลย เพราะพูดกันคนละภาษา ทำให้บริษัทฯ ได้ทราบว่าการเข้ามารุกตลาดขนส่งในเมืองไทยนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะมีพนักงานคนไทย เพื่อที่จะได้ทราบถึงความต้องการของกลุ่มขนส่งได้มากที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้ทางบริษัทฯ สามารถเจาะตลาดได้มากที่สุด
นอกจากนี้ยังส่งผลให้ทางบริษัทฯ ได้ทราบถึงข้อบกพร่องต่าง ๆ ของค่ายรถจีน ซึ่งกลุ่มขนส่งต้องการแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง เรื่องใหญ่ที่สุดก็คือการบริการหลังการขายที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้ขายเลย ซึ่งบริษัทฯ ต้องนำไปแก้ให้ได้ในเวลาที่รวดเร็วที่สุด