องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดแผนเดินรถรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงวันหยุดต่อเนื่องพิเศษกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วงที่ 1 (19 – 22 พฤศจิกายน 2563) เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 18 – 22 พฤศจิกายน 2563
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 มีมติให้วันที่ 19, 20 พฤศจิกายน 2563 และวันที่ 11 ธันวาคม 2563 เป็นวันหยุดพิเศษเพิ่มเติม ส่งผลให้มีวันหยุดต่อเนื่องพิเศษ จำนวน 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 19 – 22 พฤศจิกายน 2563 ช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 10 – 13 ธันวาคม 2563 เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขสมก.จึงจัดแผนเดินรถ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดพิเศษ ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 18 – 22 พฤศจิกายน 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง เฉลี่ยวันละ 2,766 คัน จำนวน 21,819 เที่ยว
2.จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 5 เส้นทาง ดังนี้
– สาย A 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร เฉลี่ยวันละ 20 คัน
– สาย A 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉลี่ยวันละ 15 คัน
– สาย A 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี เฉลี่ยวันละ 10 คัน
– สาย A 4 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 10 คัน
– สาย S 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 8 คัน
3.จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ จำนวน 4 สถานี รวม 34 เส้นทาง ดังนี้
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) จำนวน 12 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 16, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517, และ 536
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 66, 79, 511, 515, 516, และ 556
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย 2, 23, 25, 71, 72, 501, 508, และ 511
– สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย 4, 7, 21, 25, 34, 73, 73ก และ 501
มาตรการความปลอดภัย
ด้านพนักงานประจำรถ
- กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร คอยดูแลการขึ้น-ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย
- ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงาน
เก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงาน
เก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร
- ให้พนักงานขับรถตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกให้บริการ ประสานผู้รับเหมาซ่อมรถ ตรวจเช็คสภาพรถโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษารถให้อยู่ใน
สภาพใช้งานได้ดี ตามมาตรฐานคุณภาพบริการ ISO 9001 : 2015
- จัดพนักงานนายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาเเน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น-ลงรถของผู้ใช้บริการ
ด้านรถโดยสารประจำทาง
1.เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และผ้าม่านบนรถโดยสาร
2.ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาด ภายใน รถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวด เจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือ บริเวณประตูทางขึ้น
3.ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะ บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้าง ภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือน ผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์
ด้านผู้ใช้บริการ
- ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะใช้บริการรถโดยสาร
- เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรสแกน QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะ บนรถโดยสาร เพื่อเช็คอินเมื่อขึ้นรถ และเช็คเอาท์ก่อนลงจากรถ สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก.ทุกประเภท ควรลงทะเบียนบัตรที่ www.bmta.co.th เพื่อให้บัตรดังกล่าว สามารถเช็คอิน – เช็คเอาท์โดยอัตโนมัติ
เมื่อนำบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ มาแตะที่เครื่อง EDC เพื่อชำระค่าโดยสาร
- ผู้ใช้บริการสามารถนั่งได้ทุกเบาะที่นั่ง และควรปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยยืนห่างกันอย่างน้อย 30 เซนติเมตร
- ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเดินรถ ช่วงวันหยุดต่อเนื่องพิเศษ ได้แก่ ศูนย์วิทยุรัชดา สำนักงานใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ศูนย์วิทยุเขตการเดินรถที่ 1 – 8 ตั้งแต่วันที่ 18 -22 พฤศจิกายน 2563 และจัดเจ้าหน้าที่ Call Center 1348 ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารในการเดินรถอีกด้วย
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com