ผู้หญิงขับรถบรรทุก
เมื่อพูดถึงอาชีพหลังพวงมาลัย ในอดีตหลายคนคงนึกภาพได้แค่เป็นผู้ชายร่างกายกำยำ หรือไม่ก็สุภาพบุรุษใส่แว่นดำทำเท่ห์แบบตี๋ใหญ่ ยุคฉัตรชัย เปล่งพาณิชย์ เท่านั้น เพราะอาจเกิดจากการปลูกฝังไว้ตั้งแต่โบร่ำโบราณว่า การขับรถใหญ่นั้นเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยง เพราะต้องนอนต่างสถานที่ในยามค่ำคืน รวมทั้งต้องใช้เวลาในการขับรถนาน
แต่กับปัจจุบันหาเป็นอย่างนั้นไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพใดก็สามารถผงาดขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยขับรถใหญ่ได้โดยไม่ต้องเก้อเขิน เพราะในเส้นทางสายหลักก็เริ่มมีจุดพักรถให้กับรถใหญ่ได้จอดพักอย่างเป็นทางการแล้ว และยังมีรายงานจากสถาบันสอนขับรถใหญ่มาอีกว่า ในแง่ของการขับขี่ผู้หญิงจะใช้ความเร็วตามที่กฏหมายกำหนดและยังปฏิบัตตามกฏอย่างเคร่งครัด นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เรามักไม่ค่อยเห็นข่าวอุบัติเหตุจากการขับรถใหญ่โดยผู้หญิงซักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าคุณภาพในการทำงานไม่ได้ต่างกันกับท่านสุภาพบุรุษเลยก็ว่าได้
สกู๊ปนี้ BUS & TRUCK เรามีโอกาสได้เจอกับโชเฟอร์ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงในวงการรถใหญ่ “คุณกฤษยา สมลี หรือ โบตั๋น” สาวหน้าใสวัย 29 ปี ปัจจุบันเธอเป็นคนขับรถบรรทุกพ่วงในบ้านเกิดของเธอ คือจังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดใกล้เคียงในแถบภาคอีสานตอนบน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า หรือผู้ว่าจ้าง ด้วยมาตรฐาน เพื่อส่งมอบงานให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ อยู่วงการรถบรรทุกมาตั้งแต่เกิด
“โบตั๋น” เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นตอนเข้าสู่วงการนี้ ว่า เธออยู่กับวงการนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก แต่ระหว่างนั้นไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีความสนใจในสายงานนี้เลย แม้ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาเคยลองผิดลองถูกลองทำอะไรหลายอย่างเพื่อค้นหาว่าชอบหรืออยากทำอะไร สุดท้ายก็ได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัดที่สุดแท้จริงแล้วมันแฝงติดตัวอยู่กับเธอโดยตลอด
“ถ้าพูดถึงวงการรถบรรทุก ความจริงเราอยู่วงการนี้มาตั้งแต่เกิดเลยค่ะ ตั้งแต่สมัยสิบล้อหน้ายาวซึ่งทุกวันนี้หายากไปแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีความสนใจในด้านนี้เลย ในช่วงชีวิตที่ลองผิดลองถูกลองทำอะไรหลายๆ อย่าง เพื่อหาว่าตนเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร จนสุดท้ายมีโอกาสได้ขับรถบรรทุกโดยบังเอิญ เพราะสถานการณ์พาไป เลยทำให้รู้ว่าสิ่งที่เราชอบทำ มันอยู่กับเรามาตลอดนี่เอง”ขับรถบรรทุกเป็นงานที่ตื่นเต้น
สำหรับงานขับรถบรรทุกเป็นงานที่ทำให้โบตั๋นได้เจอคนมากหน้าหลายตา จึงทำให้รู้สึกว่าคนในสายงานรถบรรทุก ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด ซึ่งแต่ละงานแต่ละสถานที่จะได้เจอสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ไม่น่าเบื่อหน่าย และยังคงมีความสนุกสนานจากการแก้ปัญหาที่หน้างานอยู่เสมอ
“สายงานรถบรรทุกเป็นงานที่ต้องพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา และต้องเจอผู้คนใหม่ๆ เลยทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อ ขณะเดียวกันยังมีความตื่นเต้นที่อาจเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้างานเสมอ เพราะบางทีหน้างานก็เจอทั้งเรื่องง่ายบ้างยากบ้าง เช่น บางทีขับรถพ่วงต้องถอยเข้าซอย หรือถอยแบบเอวอ่อนเข้าช่องกำแพงแคบๆ ทำไม่ได้ก็จำเป็นต้องทำ หรืองานเทหินคลุก ลูกค้าแต่ละคนก็จะมีความต้องการแบบหนา-แบบบาง ต่างกันไป เราก็ต้องฝึกทำให้ได้เพื่อตอบสนองความต้องก่ารของลูกค้า แต่ถ้าให้พูดเรื่องที่ตื่นเต้นสุดคงเป็นเบรคแตกตอนที่เจ้าหน้าที่ทางหลวงกำลังตั้งด่านค่ะ วิ่งหนีกันกระเจิงเลย ฮ่าๆๆ (หัวเราะ) แต่ก็โชคดีที่ไม่มีอะไรเสียหาย ซึ่งนับว่างานขับรถบรรทุกเป็นเรื่องที่ต้องเจออะไรที่ตื่นเต้นและแปลกใหม่ตลอดค่ะ”ทุกอย่างต้องเรียนรู้ใหม่หมด
โบตั๋น เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยวางแผนหรือคิดเอาไว้ว่าเรียนจบแล้วอยากทำอาชีพอะไร จึงจำเป็นที่ต้องได้ลองทำหลายๆ อย่าง เพราะบางทีการตั้งความหวังไว้ว่าอยากทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว พอทำจริงๆ มันอาจไม่ใช่สิ่งที่ชอบก็ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังมองว่างานทุกงานมีคุณค่าหมด
“งานขับรถบรรทุกต่อให้เราอยู่กับรถมาตั้งแต่เด็ก แต่เรากลับไม่เคยฝึกมันเลย ทุกอย่างคือต้องมาเรียนรู้ใหม่หมด เพราะเราเริ่มขับตอนช่วงอายุ 26 ถึงวันนี้ก็ขับจริงจังได้ประมาณ 3 ปีแล้ว เลยพบว่าการขับรถใหญ่ก็ไม่ได้ยาก แต่การอ่านงานจะยากมากกว่า เลยทำให้เรารู้สึกชื่นชอบการขับรถใหญ่ไปด้วยเพราะนอกจากมันจะเท่ห์ดีแล้ว ยังดูมีแล้วมีพลังอีกด้วย
ปัจจุบันรถที่เราใช้ขับประจำก็คือ Hino 500 series 5 (344 แรงม้า) และอย่างที่บอกว่าเรารู้สึกสนุกกับการทำงาน เพราะฉะนั้นเวลาเราอยู่กับรถก็จะรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่กับงานอดิเรกตลอด และถ้าเวลาว่างเราก็จะเช็ครถให้พร้อมใช้งาน แต่ถ้าว่างแบบไม่มีงานจริงๆ ก็จะอ่านหนังสือ ดูซีรี่ย์ ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ลงยูทูบช่องของตัวเองค่ะ”
คติประจำใจในการทำงาน
เมื่อถามถึงคติประจำใจ หรือยึดมั่นในหลักการอะไรในการทำงานโบตั๋นบอกกับเราว่า ไม่ว่าจะทำอะไร “ขอให้เรารักในสิ่งที่เราทำ แล้วทุกๆ วันเราจะรู้สึกเหมือนไม่ได้ทำงานค่ะ” ซึ่งสิ่งที่โชคดีที่สุดคือเธอเจองานที่งสามารถทำได้โดยที่ไม่รู้สึกว่าต้องฝืน หรือบังคับตัวเองให้ทำ แต่สำหรับเธอแล้วมันเป็นความรู้สึกที่ว่า “ฉันได้ตื่นขึ้นมาทำงาน” ไม่ใช่ “วันนี้ฉันต้องตื่นขึ้นมาทำงาน” และรู้สึกโชคดีที่ได้ตื่นขึ้นมาทำสิ่งที่ตัวเองชอบทุกวัน ส่วนเป้าหมายในอนาคตขอเพียงแค่ได้เห็นตัวเองเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เพียงพอแล้ว
“หลายคนยังมีข้อสงสัยเมื่อเห็นผู้หญิงขับรถบรรทุกแต่เรามองว่า ไม่ว่าเพศอะไรก็ทำได้ ถ้าใจรักค่ะ ในสมัยก่อนอาจมีคนบอกว่าการขับรถบรรทุกเป็นงานของผู้ชาย แบบนั้นมันเป็นแค่ข้อจำกัดที่ถูกคนตั้งเอาไว้เอง แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แล้ว งานขับรถบรรทุกอาจเป็นงานที่ต้องอาศัยการใช้ทักษะ แต่ก็ไม่ได้ฝึกลำบากขนาดนั้น เพราะทุกวันนี้ในรถมีแอร์เย็นสบาย เวลาขับรถเราก็ฟังเพลงไปเรื่อยๆ แถมยังเป็นงานไม่น่าเบื่อเพราะเราได้เห็นสถานที่ใหม่ๆ อยู่ทุกวัน”โบตั๋นพูดทิ้งท้ายกับเราไว้ ว่า อยากขอบคุณที่หลายคนมองเธอเป็นแบบอย่าง ด้วยความที่ผู้หญิงขับรถบรรทุกขนาดใหญ่ยังมีจำนวนน้อย ซึ่งโบตั๋นเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ยืนยันว่า “ผู้หญิงก็ขับได้ค่ะ” เราทุกคนสามารถทำได้ ถ้าเราเชื่อว่าตนเองทำได้ ก็อยากให้น้องๆ ผู้หญิงมองภาพลักษณ์รถบรรทุกใหม่ค่ะ เราไม่ใช่สาวถึก สาวบอบบางก็ขับได้ค่ะ (ฮ่าๆๆ) และอยากบอกทุกคนว่าทักษะทุกอย่าง “ฝึกได้”
สุดท้ายก็ฝากติดตามช่องยูทูป “สาวตั๋น เต่าเทอร์โบ” ด้วยนะคะ เพิ่งเริ่มทำได้ไม่นาน ในช่องจะเป็นการถ่ายการทำงานในชีวิตประจำวันลงค่ะ งานยากงานง่าย อยู่ในช่องหมดเลยค่ะ ติดต่องานก็ติดต่อที่เพจ “สาวตั๋น เต่าเทอร์โบ” ได้เลยค่ะ มีคนคอยดูแลตลอดค่ะ ยังไงวันนี้ก็รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับทาง BUS & TRUCK เราเองก็เคยอ่านนิตยสาร แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสมาถูกสัมภาษณ์เอง ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”
อ่านเรื่องผู้หญิงขับรถบรรทุก อื่นๆ ได้ที่นี่
- “สาวตั๋น เต่าเทอร์โบ” ผู้หญิงขับรถบรรทุก “สาวหน้าหวาน เอวบางร่างเล็ก ก็ขับรถสิบล้อพ่วงได้”
-
น้องกิ๊ฟ ยอดหญิง…สิงห์รถดัมพ์เปิดใจสาวถึงแนวคิดทำธุรกิจรับเหมา
-
“สตรีมีสกิล” กับธุรกิจรับถมที่ครบวงจรสาวผู้บัญชาการรถแบคโฮและรถดัมพ์
- โชว์เฟอร์สาวน้อยวัย 22 กับมุมมองชีวิตผ่านรถบรรทุก
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com