ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ระบาดนี้ หลายๆ แคมป์ก่อสร้างหน้างานอาจจะหวาดหวั่นกับไวรัสร้ายนี้ และอาจจะสะดุดต่อความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ โครงการต่างๆ นั้น มีสัญญากำหนดวันก่อสร้างและวันสิ้นสุดชัดเจน บริษัทผู้รับเหมาก็ยังต้องเร่งเครื่องก่อสร้างโครงการต่างๆ ให้เป็นไปตามแผน เพื่อไม่ให้ถูกปรับและเกิดเหตุฟ้องร้องกันเกิดขึ้น
โครงการรถไฟทางคู่ ถือเป็นโครงการชิ้นโบว์แดงของกระทรวงคมนาคม ที่ว่ากันว่าจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทย และลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้แก่ผู้ประกอบการขนส่ง ดังนั้น ทีมข่าว BUS & TRUCK จึงอยากพาท่านผู้อ่านไปติดตามความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าทางคู่ ว่า มีความก้านหน้าไปมากน้อยแค่ไหน
เริ่มกันที่โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ปัจจุบันมีการก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 โครงการ ได้แก่
1.รถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา – แก่งคอย
2.รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น
สำหรับโครงการก่อสร้างที่เร็วกว่าแผน มีจำนวน 4 สัญญา ประกอบด้วย
– ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 51.83 เร็วกว่าแผนงาน ร้อยละ 20.29
– ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 84.89 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 1.22
– ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 83.81 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 0.37
– ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 76.85 เร็วกว่าแผนงาน ร้อยละ 0.72
ส่วนสัญญาที่มีผลการก่อสร้าง ล่าช้ากว่าแผนงาน มีจนวน 5 สัญญา ประกอบด้วย
– ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 65.59 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 1.90
– ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 87.14 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 4.15
– ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 73.15 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 11.33
– ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 85.26 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 13.59
– ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 69.03 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 2.04
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งรัดการก่อสร้างในส่วนที่ล่าช้าให้เป็นไปตามแผนงาน รวมทั้งได้สั่งการเพิ่มเติม ดังนี้
- การเร่งรัดโครงการก่อสร้างทางคู่ระยะที่ 1 นอกจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะรายงานสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาแล้ว ให้การรถไฟฯ จัดทำแผนการเร่งรัดการก่อสร้าง ที่แสดงกิจกรรมและกำหนดระยะเวลาอย่างชัดเจนว่าจะสามารถเร่งรัดการก่อสร้างให้กลับมาเป็นไปตามแผนงานด้วย ทั้งนี้ ให้การรถไฟฯ ประชาสัมพันธ์แผนงานการก่อสร้างในรายละเอียด ทั้งในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและตามสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบแผนการก่อสร้างด้วย
- สำหรับการนำแนวคิด MR-MAP (Motorway Railway Master Plan) ตามนโยบายมาปรับใช้ โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 และโครงการเส้นทางสายใหม่ ยังไม่สอดคล้องกับกรอบแนวคิดของ MR-MAP เท่าที่ควร ดังนั้น ให้การรถไฟฯ ไปพิจารณาปรับปรุงรูปแบบให้สอดคล้องกับแนวคิดของ MR-MAP ด้วย สำหรับส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ให้พิจารณารายงานเหตุผลที่ชัดเจนด้วย
- การรถไฟฯ ได้รายงานสถานะของรายงาน EIA ในแต่ละเส้นทางแล้ว แต่ยังไม่ได้แสดงแผนงานในรายละเอียด ดังนั้น สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 และเส้นทางสายใหม่ ให้การรถไฟฯ จัดทำแผนการดำเนินการในรายละเอียด ที่แสดงกิจกรรมและกำหนดระยะเวลา เพื่อจะได้ใช้ประกอบการกำกับดูแลในรายละเอียดต่อไป
- การรถไฟฯ ได้ปรับปรุงรูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟช่วงที่ผ่านตัวเมืองบางส่วนตามหลักการของ MR-MAP แล้ว แต่ยังมีบางช่วงที่ยังผ่านชุมชนเมืองอยู่ ดังนั้น ให้การรถไฟฯ พิจารณาออกแบบเส้นทางรถไฟให้ผ่านชุมชนเมืองให้น้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนต่อไป
- การพิจารณาจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวง ยังไม่มีรูปแบบมาตรฐานที่ชัดเจนว่าจะเป็นลักษณะของสะพานทางหลวงข้ามทางรถไฟ หรือสะพานรถไฟข้ามทางหลวง ดังนั้น ให้การรถไฟฯ ประสานงานกับกรมทางหลวงและกรมการขนส่งทางราง ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบโครงการเพื่อกำหนดรูปแบบมาตรฐานร่วมกัน
- ให้การรถไฟฯ ประสานงานในรายละเอียดกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้การเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟกับสถานีขนส่งสินค้าที่เชียงของและนครพนมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- ให้การรถไฟฯ ประสานงานกับกรมการขนส่งทางบกและกรมการขนส่งทางรางในการเร่งรัดปรับแผนงานการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าที่นาทา เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุดในการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟจากจีน ลาว และไทย โดยในเบื้องต้นหากไม่สามารถพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ได้ทัน อาจพิจารณาการพัฒนาในลักษณะ Phasing โดยใช้การเชื่อมต่อทางถนนในระยะแรกก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
รถไฟทางคู่ “มาบกะเบา-จิระ” ต้องเลื่อนไปเปิดใช้ปลายปี 67 หลังล่าช้า 18 เดือน
- การรถไฟฯ เร่งก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม–ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร มูลค่างานก่อสร้างรวม 33,982 ล้าน จะแล้วเสร็จในปี 64
-
รถไฟทางคู่ “มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ” วงเงิน 7,560 ล้าน คืบหน้าเร็วกว่าแผน
-
รถไฟทางคู่ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ” เสร็จตามแผน ปี 66
-
รถไฟทางคู่สายใต้ “นครปฐม-ชุมพร” ช้ากว่าแผน 7.8% ยันเปิดให้บริการปี 65
-
รฟท.เปิดเวทีระดมความเห็นรถไฟทางคู่สายตะวันออก เชื่อมขนส่งทางรางสู่ 3 ท่าเรือยกระดับโครงข่ายโลจิสติกส์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
-
รถไฟทางคู่ “ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย” เสร็จแล้ว! เตรียมเปิดหวูด ก.ย. 62 นี้
-
คมนาคม ขับเคลื่อนรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ
-
ซูเปอร์บอร์ด ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า รถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา คลองสิบเก้า แก่งคอย
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com