วันที่ 16 พฤศจิกายน 64 กลุ่มรถบรรทุก จัดคาราวานคัดค้านราคาน้ำมัน “TRUCK POWER SEASON II” แบบล้อมเมืองและผ่าเมืองเพื่อประชาชนคนใช้น้ำมันแพง ที่ถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน
โดยสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย แถลงว่า ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไทยทุกชนิด ได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2563 – ปัจจุบัน พบว่ามีปัญหาเรื่อง โครงสร้างราคาน้ำมันที่ไม่เป็นธรรม และการบริหารจัดการ เรื่องพลังงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว, สร้างภาระความเดือดร้อนแก่ประชาชน และผู้บริโภคน้ำมันทางตรง และทางอ้อม ซึ่งมีตัวละครหลายตัวที่สร้างทฤษฎีสมประโยชน์ ระหว่างกลุ่มธุรกิจพลังงานและกลุ่มทุนพลังงาน ทุกกลุ่มได้ประโยชน์หมด แต่ประชาชนและผู้ใช้น้ำมันเสียประโยชน์ตลอดเวลา 6-7 ปี ที่ผ่านมาโดยไม่ได้รับ การดูแลจากภาครัฐเท่าที่ควร น้ำมันดีเซลเป็นปัจจัยหลักของทุกต้นทุน ส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านโลจิสติกส์ มีผลต่อเนื่องถึงการพัฒนาประเทศด้านการลงทุน ภาคการผลิตและภาคบริการ ที่ทำให้ ต้นทุนโลจิสติกส์สูงถึง 14.1% เมื่อเทียบกับ GDP (ข้อมูล ปี 2563) ของประเทศ
ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 สหพันธ์ฯ และภาคประชาชน ได้จัดกิจกรรมสะท้อนความเดือดร้อนผ่านสื่อมวลชนทุกระบบ ให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง ทำหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการ กบง. ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2564 และประชุมหารือเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ไม่เห็นด้วยกับมติ ของคณะกรรมการ กบง. ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ประชุมหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ยื่นหนังสือถึง ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ประชุมคณะกรรมการ กพช. (วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564) และมีมติ ปรับลดการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริม การอนุรักษ์พลังงาน จากเดิม 10 สตางค์/ลิตร (เหลือ 5 สตางค์/ลิตร) อนุมัติให้กองทุนกู้เงินเพิ่มเพื่อเป็นการ รักษาเสถียรภาพ ระดับราคา จำนวน 40,000 ล้านบาท อย่างอื่นเหมือนเดิม


ข่าวก่อนหน้านี้
- กลุ่มรถบรรทุกนับร้อย ลงถนนกดดันภาครัฐ จี้ตรึงน้ำมันดีเซลเหลือ 25 บาท/ลิตร นาน 1 ปีชี้เป็นทางออกช่วยประชาชนยามวิกฤตโควิด และเศรษกิจตกต่ำ
- ก.พลังงานไม่รับปากคุมราคาดีเซล 25 บาท/ลิตร หลังรถบรรทุกรวมตัวเรียกร้อง อ้างยังไม่มีรัฐบาลไหนทำได้
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com