“ทางด่วน” คำนี้หลายคนมักเรียกกันติดปาก ซึ่งในความเป็นจริงทางด้วนในประเทศไทยนั้นปัจจุบันมีมากมายหลายเส้นทาง โดยเฉพาะในเขตเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ที่มีทั้งเส้นทางที่ผ่าเมืองและเชื่อมต่อไปยังหัวเมืองรอบนอก ช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งและโลจิสติกส์ และภาคประชาชน ได้รับความสะดวก และรวดเร็ว โดยแต่ละแห่งจะมีหน่วยงานหรือองค์กรที่คอยกำกับดูแลเป็นของโดยเฉพาะ ทั้งยังมีราคาแตกต่างกันไปตามระยะทาง ดังนั้น BUS & TRUCK จึงอยากชวนรู้จักกับ “ทางด่วน” ทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น

“ทางด่วน” คือ ทางพิเศษที่กำกับดูแลโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ปัจจุบันมี 8 สาย ที่เปิดใช้งาน รวมระยะทางกว่า 224.60 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบด้วย

1.ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ระยะทางรวม 27.1 กิโลเมตร

-สายดินแดง-ท่าเรือ มีระยะทาง 8.9 กิโลเมตร เริ่มจากปลายถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งไปทางทิศใต้ ผ่านทางแยกต่างระดับมักกะสัน ผ่านถนนสุขุมวิท ช่วงนี้เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร และเป็นทางระดับดินตั้งแต่ถนนสุขุมวิทถึงถนนพระรามที่ 4 และเป็นทางยกระดับอีกครั้งในช่วงถนนพระรามที่ 4 ถึงทางแยกต่างระดับท่าเรือ เชื่อมต่อกับทางพิเศษสายดาวคะนอง – ท่าเรือ

-สายบางนา-ท่าเรือ มีระยะทาง 7.9 กิโลเมตร เริ่มจากปลายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 บริเวณทางแยกต่างระดับบางนา แล้วมุ่งไปทางทิศตะวันตก ผ่านจุดตัดทางพิเศษฉลองรัชที่ทางแยกต่างระดับสุขุมวิท ช่วงนี้เป็นทางระดับดินขนาด 6 ช่องจราจร และเป็นทางยกระดับตั้งแต่ทางแยกต่างระดับสุขุมวิทถึงทางแยกต่างระดับท่าเรือ

-สายดาวคะนอง-ท่าเรือ มีระยะทาง 10.3 กิโลเมตร เริ่มจากทางแยกต่างระดับท่าเรือ ผ่านทางแยกต่างระดับบางโคล่ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพระราม 9 ช่วงนี้เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร และลดช่องจราจรเหลือ 4 ช่องจราจร ตั้งแต่สะพานพระราม 9 และสิ้นสุดที่ถนนพระรามที่ 2

2.ทางพิเศษศรีรัช ระยะทางรวม 38.4 กิโลเมตร

-ส่วน A มีระยะทาง 12.4 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ถนนรัชดาภิเษก ผ่านบริเวณทางแยกต่างระดับพญาไท (โรงกรองน้ำสามเสน) สิ้นสุดแนวสายทางที่ถนนพระราม 9 

-ส่วน B มีระยะทาง 9.4 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับส่วน A บริเวณทางแยกต่างระดับพญาไท (โรงกรองน้ำสามเสน) ผ่านยมราช ถนนศรีอยุธยา ถนนสาทร ถนนจันทน์ ถนนพระรามที่ 4 สิ้นสุดแนวสายทางที่บริเวณบางโคล่

-ส่วน C มีระยะทาง 8 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับส่วน A บริเวณถนนรัชดาภิเษก ผ่านถนนประชาชื่น มุ่งไปทางทิศเหนือ สิ้นสุดที่ถนนแจ้งวัฒนะ 

-ส่วน D มีระยะทาง 8.6 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับส่วน A บริเวณถนนพระราม 9 ไปทางทิศตะวันออก สิ้นสุดที่บริเวณถนนศรีนครินทร์ 

3.ทางพิเศษฉลองรัช

-สายรามอินทรา – อาจณรงค์ มีระยะทาง 18.7 กิโลเมตร มีเส้นทางเริ่มจากถนนรามอินทรา บริเวณกิโลเมตรที่ 5.5 ลงทางทิศใต้ ข้ามถนนลาดพร้าว ถนนประชาอุทิศ ถนนพระราม 9 แล้วเบนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตัดกับทางพิเศษศรีรัช ส่วน D ข้ามถนนรามคำแหง ถนนพัฒนาการ เลียบแนวคลองตัน ข้ามถนนสุขุมวิททางด้านตะวันออกของสะพานพระโขนง ไปบรรจบกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร สายบางนา – ท่าเรือที่บริเวณอาจณรงค์

-สายรามอินทรา – วงแหวนรอบนอกฯ มีระยะทาง 9.5 กิโลเมตร เริ่มจากถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก บริเวณจตุโชติ ทิศใต้ของทางแยกต่างระดับลำลูกกา มุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ยกระดับข้ามถนนสุขาภิบาล 5 ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จนถึงถนนรามอินทรา บริเวณกิโลเมตรที่ 5.5 เชื่อมต่อกับทางพิเศษฉลองรัชช่วงรามอินทรา – อาจณรงค์ ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของทางพิเศษฉลองรัชทางด้านเหนือ 

 

4.ทางพิเศษบูรพาวิถี

มีระยะทาง 55 กิโลเมตร ใช้พื้นที่เกาะกลางทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 ตอนบางนา – บางปะกง ไปทางทิศตะวันออก เข้าสู่จังหวัดสมุทรปราการ ผ่านอำเภอบางพลี ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก ผ่านอำเภอบางเสาธง อำเภอบางบ่อ แล้วเข้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ผ่านอำเภอบางปะกง ข้ามแม่น้ำบางปะกง และสิ้นสุดที่อำเภอเมืองชลบุรี 

5.ทางพิเศษอุดรรัถยา

-แจ้งวัฒนะ – เชียงราก (ระยะที่ 1) มีระยะทางกว่า 22 กิโลเมตร เริ่มต้นเชื่อมต่อที่ปลายทางพิเศษศรีรัช บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งไปทางทิศเหนือ ผ่านเมืองทองธานี จากนั้นเข้าสู่อำเภอเมืองปทุมธานี ตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 346 แล้วข้ามคลองเชียงราก ไปถึงบางพูน เป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร ก่อนที่จะลดระดับเป็นทางระดับดินขนาด 4 ช่องจราจร โดยมีรั้วกั้นตลอด จากนั้นเข้าสู่อำเภอสามโคก ตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3241

-เชียงราก – บางไทร (ระยะที่ 2) มีระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับระยะที่ 1 ที่เชียงราก เส้นทางโค้งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเข้าสู่อำเภอบางไทร ข้ามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 347 แล้วไปสิ้นสุดบริเวณกิโลเมตรที่ 79 ของถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกของกรมทางหลวงช่วงอำเภอบางไทร 

6.ทางพิเศษสายบางนา – อาจณรงค์

มีจุดเริ่มต้นจากปลายทางพิเศษฉลองรัช และซ้อนทับตามแนวทางพิเศษเฉลิมมหานครจากทางแยกต่างระดับอาจณรงค์เชื่อมต่อกับทางพิเศษบูรพาวิถี ระยะทางรวม 4.7 กิโลเมตร

7.ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์)

มีระยะทางรวม 22.5 กิโลเมตร เป็นทางต่อเชื่อมกับทางหลวงวงแหวนกาญจนาภิเษกด้านใต้ ช่วงถนนพระรามที่ 2 – ถนนสุขสวัสดิ์ โดยริ่มต้นจากถนนสุขสวัสดิ์บริเวณพระประแดง ผ่านสะพานกาญจนาภิเษกข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านทางแยกเชื่อมต่อกับสะพานภูมิพล ไปทางทิศตะวันออกผ่านถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ และถนนเทพารักษ์ ไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 34 (บางนา – บางปะกง) เชื่อมต่อกับทางพิเศษบูรพาวิถีที่ทางแยกต่างระดับวัดสลุด อำเภอบางพลี

8.ทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร

มีระยะทาง 16.7 กิโลเมตร เริ่มจากถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครบริเวณใกล้โรงกรองน้ำมหาสวัสดิ์ ไปตามแนวเขตทางรถไฟสายใต้เดิม ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 6 สิ้นสุดโครงการบริเวณสถานีกลางบางซื่อ โดยเชื่อมต่อทางพิเศษศรีรัชบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 และลงสู่ระดับดินที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 

‘มอเตอร์เวย์’ คือ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองกำกับดูแลโดยกรมทางหลวง ปัจจุบันเปิดให้บริการ 2 สายทาง ได้แก่

1.ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เป็นเส้นทางกรุงเทพฯ – ชลบุรี – พัทยา สายใหม่ (มอเตอร์เวย์)มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง 9 ด่าน คือ ด่านฯ ลาดกระบัง บางบ่อ บางปะกง พนัสนิคม บ้านบึง บางพระ หนองขาม โป่ง และ ด่านฯ พัทยา มีระยะทางรวม 125.9 กิโลเมตร

2.ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เป็นเส้นทางสายวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก (ตอนบางปะอิน – บางพลี) มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง 4 ด่าน คือ ด่านธัญบุรี 1 ด่านธัญบุรี 2 ด่านทับช้าง 1 และ ด่านทับช้าง 2 มีระยะทางรวม 131 กิโลเมตร

“โทลล์เวย์” หรือทางยกระดับอุตราภิมุข อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเอกชนที่ได้รับสัมปทานจากกรมทางหลวง มีระยะทางประมาณ 28 กม. ดังนี้..

– ด่านขาออก (การจราจรมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ)

ช่วงดินแดง – ดอนเมือง ประกอบด้วย ด่านดินแดง, ด่านสุทธิสาร, ด่านลาดพร้าวขาออก, ด่านรัชดาภิเษก และด่านบางเขน

ช่วงอนุสรณ์สถาน – รังสิต ประกอบด้วย ด่านหลักสี่ขาออก และด่านอนุสรณ์สถาน

– ด่านขาเข้า (การจราจรมุ่งหน้าไปทางทิศใต้)

ช่วงอนุสรณ์สถาน – ดินแดง ประกอบด้วย ด่านดอนเมือง  

ช่วงดอนเมือง – ดินแดง ประกอบด้วย ด่านหลักสี่ขาเข้า, ด่านแจ้งวัฒนะ และด่านลาดพร้าวขาเข้า

 

นอกจากนี้ ยังมีทางพิเศษอีกหลายโครงการที่กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างดำเนินการสร้างและผลักดันให้เกิดขึ้นในอนาคต เพื่อรองรับกับการเดินทางระหว่างพื้นที่ชั้นนอกและชั้นในของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ คาดว่าภายหลังจากที่มีการสร้างเสร็จสมบูรณ์จะช่วยกระดับการขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

โดย…น้าเช

อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่

เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK

เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com

Advertisement