รถพ่วงเป็นรถเพื่อการพาณิชย์อีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะธุรกิจโลจิสติกส์ที่ใช้ขนส่งสินค้าข้ามภูมิภาคหรือแม้กระทั่งการนำสินค้าไปส่งที่ท่าเรือเพื่อดำเนินการขนส่งทางเรือต่อไป หรือการขนวัตถุสิ่งของต่าง ๆ โดยรถพ่วงเป็นรถที่ไม่มีเครื่องยนต์สำหรับใช้ขับเคลื่อนตัวเอง จึงไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ด้วยตนเอง ต้องมีแรงภายนอกมาลากจูง โดยส่วนใหญ่จะใช้รถหัวลาก และ เครื่องจักรกลภายนอกอื่น ๆ ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะใช้รถหัวลากมาลากจูงใช้กับการขนส่งสินค้า รถพ่วงส่วนใหญ่ที่พบเห็นบ่อย ๆ จะมี 2 ประเภท ดังนี้
- Full Trailer
เป็นรถพ่วงที่ไม่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง จึงต้องอาศัยรถลากจูงเข้ามาช่วย โดยโครงรถจะมีเพลาล้อที่สมบูรณ์ในตัวเอง ส่วนการรับน้ำหนักของโครงคัสซีระหว่างรถหัวลากกับรถพ่วงแยกเป็นอิสระจากกัน สามารถต่อพ่วงกันด้วยอุปกรณ์ลากจูง ถ้าถอดหางพ่วงออก รถหัวลากก็สามารถใช้บรรทุกขนส่งสินค้าได้ทันที สามารถใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 3 (บ.3 , ท.3) สามารถขับรถสิบล้อพ่วง,รถหัวลาก
- Semi Trailer
รถกึ่งพ่วงที่คนไทยมักเรียกว่า “รถเทรลเลอร์” เป็นรถที่ไม่มีแรงขับเคลื่อนในตัวเอง จึงต้องใช้หัวรถลาก โดยน้ำหนักของรถบางส่วนจะต้องเฉลี่ยลงบนเพลาล้อของคันลากจูง โดยการรับน้ำหนักบรรทุกรถหัวลากและรถกึ่งพ่วง จะรับน้ำหนักบรรทุกร่วมกัน ไม่สามารถแยกกันทำงานได้ ถ้าถอดรถ กึ่งพ่วงออกรถหัวลากจะไม่สามารถใช้บรรทุกสินค้าใด ๆ ได้ มีลักษณะคือรถหัวลากจะติดตั้ง จานเทรลเลอร์ ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 3 (บ.3 , ท.3) สามารถขับรถสิบล้อพ่วง,รถหัวลาก นอกจากนี้รถกึ่งพ่วงยังมี รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว โดยเป็นรถที่ไว้ใช้ในการขนสิ่งของที่ยาว โดยจะมีโครงโลหะที่สามารถปรับตัวได้ตามช่วงล้อลากจูงได้
จะตัดสินใจเลือกแบบไหนก็ควรตรวจสอบและตัดสินใจดี ๆ แต่นอกจากรถพ่วงแล้วก็ยังมีรถเทรลเลอร์พื้นเรียบที่เหมาะสำหรับบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์โดยเฉพาะ สะดวกในการขึ้นลงสินค้า สามารถทำให้ผู้ประกอบการประหยัดเวลาในการจัดส่งได้ และรถพ่วงคอกที่เรามักจะเห็นบ่อย ๆ ตามท้องถนน เหมาะสำหรับการขนสินค้าทางการเกษตร สินค้าแบบกระสอบ สินค้าที่วางเรียงพื้น เป็นต้นโดยพิกัดน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 34 ตัน รถพ่วงถังบรรทุกปูนผง สำหรับรถพ่วงถังบรรทุกปูนผง เป็นรถพ่วงที่เหมาะกับการขนส่งสินค้าประเภท ซีเมนต์ ฝุ่นถ่าน ปูนขาวและผงหินแร่ รถไซโลหรือรถพ่วงเพื่ออุตสาหกรรมการขนส่งอาหารสัตว์
ในปัจจุบันคนนิยมหันไปใช้รถพ่วงหรือรถกึ่งพ่วงมือสองมากกว่าที่จะซื้อมือหนึ่งเพราะมีราคาที่ค่อนข้างสูง บวกกับการอยากจะลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปด้วย เพราะธุรกิจการคนส่งในตอนนี้มีอัตราการแข่งขันที่ค่อนข้างที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกันรถพ่วงมือสองที่ผ่านการใช้งานมาบ่อย อาจจะทำให้เกิดความเสียหายเพราะตัวรถพ่วงไม่ดี จนทำให้ต้องเสียเงินค่าบำรุง ค่าซ่อมแซม หรือซื้อเปลี่ยนบ่อยได้ ผู้ประกอบการควรคิดและตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนจะซื้อมาใช้ในการทำธุรกิจ ควรใช้รถพ่วงที่มีคุณภาพ แข็งแรง คุ้มค่าต่อการลงทุน และจะไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลังได้
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- Food Truck สุดยอดนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
- ระวังให้ดีอย่าให้สินค้าทุกชิ้นเกิดความเสียหายเด็ดขาด!
- ดูแล ปกป้อง ลดความเสี่ยงจาก Covid19 ให้รถขนส่ง
- เลือกแบบไหนที่ตอบโจทย์การขนส่งของคุณ รถบรรทุกตู้แห้งหรือรถบรรทุกตู้เย็น
โดย…เวโย
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com
