นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กระทรวงคมนาคม เผยว่า ปัจจุบันรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มีทั้งหมด 2,885 คัน อายุการใช้งานตั้งแต่ 5 – 25 ปี ขึ้นไป ส่งผลให้มีสภาพชำรุดทรุดโทรม อย่างไรก็ตาม ขสมก. ได้จัดให้มีการซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการกับประชาชน
ที่ผ่านมาก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขสมก. มีผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวัน ประมาณ 800,000 – 900,000 คนต่อวัน ในการจัดให้มีบริการเดินรถเมล์ ประมาณ 19,000 เที่ยวต่อวัน จนกระทั่งในช่วงที่โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดมากขึ้นและมาตรการของรัฐที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางขนส่งของประชาชน ขสมก. มีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 200,000 – 400,000 คนต่อวัน ในเที่ยววิ่งประมาณ 17,000 เที่ยวต่อวัน
ในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้คลี่คลายลงไปมาก ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล ส่งผลให้ ขสมก. มีผู้โดยสารประมาณ 700,000 คนต่อวัน ในเที่ยววิ่งประมาณ 19,000 เที่ยวต่อวัน (น้อยกว่าก่อนโควิด-19 ประมาณร้อยละ 16 และมากกว่าช่วงสถานการณ์โควิด-19 ประมาณร้อยละ 40)
จากกระแสโซเชียลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในประเด็นรถโดยสารประจำทางขาดระยะและรอรถโดยสารประจำทางที่ใช้ระยะเวลานาน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ ขสมก. เร่งตรวจสอบและแก้ไขทันที ซึ่งพบว่า มีหลายปัญหาที่เป็นสาเหตุ เช่น รถโดยสารไม่เพียงพอ พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารไม่พอเพียง หรือแผนการบริหารจัดการเดินรถไม่มีความเหมาะสมกับการปล่อยรถในแต่ละช่วงเวลา เป็นต้น ซึ่งเป็นปัญหาที่อยู่ระหว่างการแก้ไขทั้งการจัดหารถโดยสารพลังงานสะอาด การวิเคราะห์อัตรากำลังที่เหมาะสมกับจำนวนรถโดยสารประจำทางที่มีอยู่ รวมถึงการปรับปรุงแผนการเดินรถในแต่ละช่วงเวลา (ซึ่งเริ่มดำเนินการมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว) ด้วย
การปรับปรุงแผนการเดินรถจะต้องนำปัจจัยที่มีการเปลี่ยนแปลงและทรัพยากรที่มีอยู่มาปรับร่วมกัน เพื่อให้มีความเหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเริ่มจัดลำดับเส้นทางที่มีเรื่องร้องเรียนหรือที่สำรวจพบว่า เป็นเส้นทางวิกฤตเป็นอันดับต้นในการเริ่มดำเนินการ ซึ่งพบว่ามีประมาณ 27 เส้นทาง (จาก 107 เส้นทาง) ที่พบปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มจากการเกลี่ยรถเมล์ในช่วงที่มีผู้โดยสารน้อยในเส้นทางนั้น ๆ ในช่วงสาย – ช่วงบ่าย และนำรถเมล์ไปเพิ่มในช่วงเย็นและช่วงค่ำเพื่อให้การหมุนเวียนรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความเหมาะสมกับจำนวนผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชนในแต่ละช่วงเวลาต่าง ๆ และหากเส้นทางใดที่มีระยะทางยาวหรือใช้ระยะเวลานานในการหมุนเวียนรถเมล์ เพื่อเข้าประจำการรองรับประชาชน จะต้องพิจารณาตัดเสริมหรือตัดช่วงเส้นทางให้รถเมล์สามารถหมุนเวียนกลับประจำการ เพื่อรับส่งประชาชนให้เร็วที่สุด ให้มีความต่อเนื่องในการให้บริการและลดปัญหาการขาดระยะของรถเมล์ได้
ปัจจุบัน ขสมก. ได้ปรับปรุงแผนการเดินรถในแต่ละช่วงเวลาแล้วเสร็จ ทั้งหมด 107 เส้นทาง และได้ทดสอบแผนการเดินรถด้วยการปล่อยรถตามความถี่และจำนวนตามแผนการเดินรถที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้มีความเหมาะสมต่อการให้บริการ และจะมีการประเมินสถานการณ์ทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาปรับปรุงแผนให้มีความยืดหยุ่นและมีความเหมาะสมต่อไป
ในส่วนของประเด็นการจัดซื้อรถโดยสารประจำทางใหม่นั้น ขสมก. เป็นหน่วยงานที่ประสบปัญหาการขาดทุน ซึ่งการจัดหารถใหม่ต้องใช้งบประมาณสูงในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือการเช่ารถ ซึ่งอาจส่งผลต่อการบริหารจัดการในภาพรวมของ ขสมก. ได้
ดังนั้นแนวทางการจัดหารถใหม่ของ ขสมก. จึงต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่และรอบคอบมากที่สุดประกอบกับปัจจุบัน ขสมก. อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนฟื้นฟูตามความเห็นของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมติของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มของการขนส่งสาธารณะที่เกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพทั้งระบบล้อ ราง เรือ ให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตรงต่อเวลา และราคาสมเหตุผล ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมต่อไป
ขอบคุณข่าวประชาสัมพันธ์จาก: ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- ทช.พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยบนท้องถนน รองรับการปรับความเร็วจำกัดไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
-
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของโลจิสติกส์ที่ผู้ประกอบการต้องรู้เกี่ยวกับ Bonded Warehouse
- ดูก่อนซื้อ! 6 ข้อที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อต้องการซื้อรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ
- นิ่งเป็นหลับ ขยับแก้ง่วงกับ 7 ท่าบริหารร่างกายป้องกันการหลับในขณะขับรถ
โดย…เทลเลอร์
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com