การขนส่งมีหลากหลายรูปแบบและถูกปรับเปลี่ยนตามกาลเวลาและเทคโนโลยีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะโลกยังคงวิวัฒนาการอยู่เรื่อย ๆ พร้อมกับนวัตกรรมหลากหลายที่ถูกคิดค้นและปรับใช้ในหลายธุรกิจไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจขนส่ง โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง IoT ซึ่งอุตสาหกรรมการขนส่งในปัจจุบันมีการใช้จ่ายด้าน IoT จำนวนมาก แต่การเปลี่ยนแปลงและการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ยังไม่หยุดนิ่งเพื่ออนาคตของการขนส่งในประเทศและต่างประเทศ เราจึงมี 3 การเปลี่ยนแปลงของอนาคตการขนส่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการและผู้ขับรถขนส่งรวมทั้งทุกคนต้องรู้ ดังนี้
ยานยนต์อัตโนมัติ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการนำการขนส่งแบบอัตโนมัติมาปรับใช้ในหลายประเทศ รวมถึงระบบนำทางที่นำคนขับไปในเส้นทางที่รวดเร็วได้อย่างชาญฉลาด และมองหาเส้นทางที่สะดวก นำทางผู้ขับขี่ไปยังจุดหมายที่ต้องการขนส่งได้ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน ร้านค้า ศูนย์กระจายสินค้า หรือแม้กระทั่งบ้านของลูกค้าก็ตาม ยานยนต์อัตโนมัติได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายมาเป็นเวลาพอสมควร โดยมีระบบที่ติดตั้งระบบอัตโนมัติในการขับขี่และสามารถสื่อสารกับยานยนต์อื่นได้ โดย Society of Automotive Engineers International (SAE) ได้กำหนดระดับขั้นของการพัฒนาระบบอัตโนมัติของยานพาหนะไว้ 6 ระดับ ตั้งแต่ในระดับที่มนุษย์ทำหน้าที่ในการขับขี่ไปจนถึงระบบที่รถยนต์ทำงานอย่างอิสระเต็มรูปแบบ ซึ่งการแบ่งระดับของระบบอัตโนมัติในรถยนต์ถูกกำหนดไว้ดังนี้
ระดับ 0 คนขับที่เป็นมนุษย์ทำหน้าที่ในการควบคุมทั้งระบบ
ระดับ 1 ระบบอัตโนมัติในยานพาหนะที่สามารถช่วยเสริมการขับรถของมนุษย์
ระดับ 2 ระบบอัตโนมัติสามารถทำหน้าที่ในการขับขี่ได้ส่วนหนึ่ง ขณะที่ผู้ขับขี่ที่เป็นคนเป็นผู้สังเกตการณ์สภาพแวดล้อมและเป็นผู้ทำหน้าที่ในการขับขี่เป็นส่วนใหญ่
ระดับ 3 ระบบอัตโนมัติสามารถดำเนินการขับรถและตรวจสอบสภาพแวดล้อมในการขับขี่ได้ในบางส่วน แต่คนขับจะต้องพร้อมที่จะเข้าควบคุมรถในกรณีที่มีความจำเป็น
ระดับ 4 ระบบอัตโนมัติดำเนินการขับรถและตรวจสอบสภาพแวดล้อมในการขับขี่ โดยไม่ต้องอาศัยการควบคุมของมนุษย์ แต่สามารถทำงานเฉพาะในสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น
ระดับที่ 5 ระบบอัตโนมัติดำเนินงานขับรถทั้งหมดภายใต้เงื่อนไขเทียบเท่ากับการขับรถโดยมนุษย์
และด้วยนวัตกรรมและระบบที่ชาญฉลาดทำให้ยานยนต์อัตโนมัติสามารถลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดจากพฤติกรรมของคนขับได้ รวมไปถึงการจัดส่งอย่างแม่นยำไร้ข้อผิดพลาด หากธุรกิจหรือบริษัทใดสามารถเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์อัตโนมัติได้ก็ถือว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจในระดับหนึ่งละยังช่วยลดแรงงานคนได้อีกด้วย
สิ่งแวดล้อม
จากรายงานความก้าวหน้ารายสองปี ฉบับที่ 2 ของประเทศไทย (Second Biennial Update Report of Thailand) ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อปี 2560 เพื่อนำเสนอข้อมูลบัญชีก๊าซเรือนกระจก (ปี 2543 – 2556) ต่อสำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCCC) พบว่า กิจกรรมการขนส่งมีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คิดเป็นร้อยละ 19.2 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของประเทศ
นอกจากนี้ การขนส่งยังเป็นสาเหตุในการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่เราต้องเผชิญในช่วงฤดูหนาวของทุกปี โดยเห็นได้ชัดจากเมืองใหญ่หรือพื้นที่ที่มีภาวะการจราจรหนาแน่น มักมีดัชนีคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินมาตรฐานที่กำหนด แต่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งมีมาตรการล็อกดาวน์เมือง ทำให้ปริมาณการจราจรในพื้นที่ต่าง ๆ ลดลงจนเกือบหยุดชะงัก คุณภาพอากาศในเมืองใหญ่ต่าง ๆ ดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นการขนส่งควรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะดีที่สุด หากพบว่ารถขนส่งของคุณเป็นตัวการในการสร้างมลภาวะควรเปลี่ยนหรือหาแนวทางแก้ไขให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
ปัญญาประดิษฐ์
ในปัจจุบันมีการคิดค้นเทคโนโลยีออกมามากมายทั้งภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมการขนส่ง อย่างเช่น AI เทคโนโลยีที่ก้าวเข้ามามีบทบาทจากพลังการประมวลผลและปริมาณของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยเป็นตัวช่วยหลักในการทำงานอย่างการช่วยตัดสินใจ แบบ real-time เพื่อลดความลังเลและความซับซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นในธุรกิจ หากต้องการเลือกผู้ประกอบการที่ดีที่สุด AI ก็จะช่วยประมวลผลตัวเลือกออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำนายความต้องการของลูกค้าด้วย AI และ machine learning ที่มีบทบาทที่สำคัญในการทำนายความเสียหายของอุปกรณ์หรือยานพาหนะล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถป้องกันความเสียหายได้ทันท่วงที ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ในลักษณะของ predictive maintenance นั่นเอง และยังสามารถประมวลผลและสร้างกำไรให้กับผู้ประกอบการขนส่งอีกมากมาย เพียงแค่รู้วิธีการปรับใช้ ศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบก็พอ
ในอนาคตยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกมากมายที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจากลูกค้า คู่แข่ง สถานการณ์ในประเทศและสถานการณ์โลก ผู้ประกอบการจึงควรเตรียมแผนรับมือให้ดีกับการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงให้ไวที่สุด แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไม่ได้เลยในธุรกิจการขนส่ง นั่นก็คือรถบรรทุกหรือรถที่ใช้ขนส่งถ้าหมดอายุการใช้งานจนซ่อมไม่ไหวแล้ว เราแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้รถบรรทุกจาก UD TRUCK ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการขนส่งหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าทั่วไป การขนส่งทางไกลก็สามารถทำได้อย่างชาญฉลาดตอบโจทย์อนาคตการขนส่งได้อย่างดีเยี่ยม
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- 5 พฤติกรรมที่ควรหยุดทำถ้าไม่อยากทำร้ายรถขนส่ง
- เคล็ด (ไม่) ลับเสริมฮวงจุ้ยให้รถขนส่งสินค้าและรถบรรทุก
- หยุด! อาการง่วงด้วยอาหารและเครื่องดื่มแก้ง่วงเพื่อผู้ขับขี่รถขนส่งและรถบรรทุก
- Same Day Delivery มิติใหม่ของธุรกิจการขนส่งที่จะมาแทน Next Day Delivery
โดย…เวโย
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com