อุบัติเหตุจากรถบรรทุก

ในปีที่ผ่านมาจากสถิติพบว่ามีการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากกว่าหนึ่งหมื่นครั้งซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงพอสมควร ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากการหลับใน เมาแล้วขับ ขับเร็วเกินหรือเบรกไม่ทัน จึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรมบ่อยครั้ง สูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิต แต่อุบัติเหตุรถบรรทุกมักร้ายแรงกว่าอุบัติเหตุรถทั่วไป เนื่องจากรถที่มีขนาดใหญ่กว่าและบางคันที่บรรทุกสินค้า จึงทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าทั่วไปอยู่แล้ว ทั้งนี้คนขับรถบรรทุกควรมีวินัยในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ทีม Bus&Truck จึงรวบรวมข้อปฏิบัติและคำแนะนำที่สามารถช่วยป้องกันอุบัติเหตุรถบรรทุกได้

เคล็ดลับการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุสำหรับคนขับรถบรรทุก

  1. ขับรถด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนด

การจำกัดความเร็วบนท้องถนนนั้นไม่ใช้ข้อเสนอแนะ แต่เป็นข้อปฏิบัติที่คนขับควรทำตามเพื่อความปลอดภัยในการใช้ถนน นอกจากนี้ในวันที่สภาพอากาศเลวร้าย การขับรถที่ไม่เร็วจนเกินไปสามารถช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย

  1. ศึกษาเส้นทางล่วงหน้า

ศึกษาเส้นทางที่ต้องส่งของล่วงหน้า เนื่องจากเส้นทางบางสายมีข้อจำกัดในการใช้ เป็นทางที่รถบรรทุกไม่สามารถใช้ทางเดียวกับรถยนต์ส่วนบุคคลได้ ดังนั้นการทำความคุ้นเคยกับเส้นทางก่อนออกเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ GPS ร่วมด้วยสามารถช่วยให้การขับรถไปถึงจุดหมายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนเส้นทางกะทันหันได้อีกด้วย

  1. ติดต่อกับลูกค้าเสมอ

ควรติดต่อลูกค้าหรือสถานที่จะส่งสินค้าล่วงหน้า เพื่อแจ้งเวลาที่คาดว่าลูกค้าจะได้รับสินค้า และที่สำคัญควรสอบถามว่าเส้นทางที่จะไปส่งของมีการก่อสร้างหรือซ่อมแซมถนนหรือไม่ เพื่อเตรียมตัวหลีกเลี่ยงทางเส้นนั้น

  1. ตรวจสภาพแวดล้อมของสถานที่ที่จะขนส่งสินค้า

หากคุณต้องขับรถเพื่อไปขนส่งสินค้าในเขตชุมชน เขตโรงเรียนหรือเส้นทางคับแคบ ควรศึกษาสภาพแวดล้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ วิธีที่ดีที่สุดคือการหาที่จอดรถที่ใกล้ที่สุดและไม่ขวางเส้นทางการเดินรถ หรือบดบังการจราจรของรถอื่น ๆ

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นการที่โหมงานหนักจนเกินไป การนอนไม่เพียงพอ สามารถทำให้คนขับรถวูบได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการวูบขณะขับรถแนะนำให้แวะพักที่จุดพักรถหรือขยับร่างกายไล่ความง่วงได้

  1. เมาไม่ขับ

หลายครั้งที่มีการออกมารณรงค์เรื่องการเมาไม่ขับ แต่ก็เป็นหลายครั้งอีกเช่นกันที่มีการเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ คนขับรถบรรทุกบางคนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมักจะผ่อนคลายด้วยการดื่มเบียร์เย็น ๆ แต่รู้หรือไม่ว่านี่ไม่ใช่วิธีดีเสมอไป เพราะมันจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงมากขึ้น อย่างเช่น การขับรถเร็วขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว การตัดสินใจผิดพลาด หรือแม้กระทั่งการเผลอหลับกลางอากาศ เป็นต้น

  1. จดจ่อกับการขับรถมากขึ้น

ในการขับรถในระยะทางนาน ๆ หลายคนเลือกที่จะเปิดวิทยุ USB หรือ Youtube เพื่อแก้ง่วงในขณะขับรถ แต่ถ้าคุณโฟกัสมากเกินไป อาจทำให้ไม่มีสมาธิและเกิดอุบัติเหตุได้ เราขอแนะว่าถ้าหากคุณยากฟังเพลงก็อาจจะสร้างเพลย์ลิสต์ไว้เพื่อฟังตอนขับรถ แทนการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปลี่ยนเพลงในขณะขับรถ

  1. ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง

ปัญหานี้สำคัญมาก คนขับสามารถเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทางได้ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เช่น ระบบเบรกทำงานปกติดีหรือไม่ ลมยางได้มาตรฐานหรือไม่ ระบบไฟหน้าติดปกติ ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้ตามปกติหรือไม่ เป็นต้น

  1. เช็กสินค้าและภาชนะบรรจุสินค้าว่าปลอดภัย

เนื่องจากการขนส่งสินค้ามีหลายรูปแบบแตกต่างกัน ดังนั้นวิธีการบรรทุกการขนส่งจึงต้องมีการจัดการที่แตกต่างกัน ถ้าหากขนวัตถุอันตราย เช่น ก๊าซ สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกคือภาชนะที่บรรจุนั้นไม่มีรอยรั่วไหล และปิดสนิทดีแล้ว เพราะถ้าคนขับประมาทอาจทำให้เกิดการระเบิดได้ ที่ขับตามมาด้านหลังได้รับอุบัติเหตุได้

black car on the road

แต่การหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุนั้นได้มีแค่ผู้ขับขี่รถบรรทุกเท่านั้นที่ควรตระหนักอย่างเดียว ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ใช้รถใช้ถนนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน โดยผู้ขับขี่รถทั่วไปสามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุกับรถบรรทุกได้ดังนี้

  1. ไม่ขับชิดท้ายรถบรรทุกมากเกินไป

แน่นอนว่ารถบรรทุกใหญ่ว่ารถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปอยู่แล้ว ทำให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้าลำบากมากขึ้น ดังนั้นเป็นไปได้ที่คนขับรถอาจมีการเลี้ยวกะทันหันหรือหยุดกะทันหัน พฤติกรรมเหล่านี้สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นขับรถให้ห่างจากท้ายรถบรรทุกอย่างน้อย 5 เมตร

  1. ทิ้งช่วงระยะแซง

การต่อท้ายรถบรรทุกควรเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เช่นเดียวกันกับการแซงรถเพื่อเปลี่ยนเลน ในการแซงรถควรกะระยะเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระยะปลอดภัยที่จะสามารถแซงได้ ไม่ควรตัดหน้าหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน

  1. อยู่ห่างจากจุดบอดของรถบรรทุก

เนื่องจากคนขับรถบรรทุกไม่สามารถมองเห็นจุดบอดได้ ดังนั้นจึงควรเป็นคนขับรถทั่วไปที่ต้องรู้ว่าจุดบอดของรถบรรทุกอยู่ตรงไหนบ้าง แต่สิ่งที่สังเกตง่าย ๆ คือหากคุณไม่เห็นหน้าคนขับรถบรรทุก แสดงว่าคนขับรถบรรทุกมองไม่เห็นคุณเช่นกัน นั่นก็คือจุดบอดที่ไม่ควรขับไปอยู่ใกล้จนเกินไป

  1. ระวังรถบรรทุกดูด

ไม่ควรอยู่ใกล้รถบบรรทุกมากเกิน เพราะรถบรรทุกมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่ารถทั่วไป เมื่อขับไปชิดมากเกินไป ทำให้เกิดแรงดูดเข้าไปที่ตัวรถใหญ่ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นหากจะแซงแนะนำว่าไม่ควรแซงใกล้เกินไป หรือวิ่งคนละเลนจะดีกว่า

  1. ระวังระยะเลี้ยว

เนื่องจากรถบรรทุกมีขนาดยาวกว่ารถประเภทอื่น ๆ  รถบรรทุกจึงต้องการระยะห่างในการเลี้ยวมากกว่ารถยนต์ทั่วไป และประกอบกับคนขับเองจะมีทัศนวิสัยน้อยลง ดังนั้นควรเว้นระยะห่างจากองศาการเลี้ยวของรถและควรชะลอความเร็วลง

การเกิดอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิด บางครั้งคนขับเองก็ไม่สามารถป้องกันทุกอย่างเสมอไป และบางครั้งแม้แต่คนขับที่ระวังที่สุดก็ยังเจอปัญหา แต่การนำข้อแนะนำเหล่านี้ไปใช้ในการขับรถจริง ๆ เราเชื่อว่าจะสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุลงได้

สำหรับตัวช่วยดี ๆ ที่จะส่งเสริมความมั่นใจในการขับขี่ หากเกิดอุบัติเหตุขณะขนส่งสินค้าก็สามารถเลือกนำสิน ประกันภัยที่ทำให้คุณอุ่นใจได้ตลอดเส้นทาง เพราะนำสินคิดความคุ้มครองมาเผื่อคนขับรถบรรทุกทุกคน แต่ไม่ใช่เพียงแค่คนขับเท่านั้น เจ้าของสินค้าเองก็สามารถรับความคุ้มครองที่อุ่นใจได้เช่นกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่: namsengins.co.th

 

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก: enjuris.combangkokbiznews.combangkokinternationalhospital.com, chobrod.com

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

โดย…เทลเลอร์

อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่

เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK

เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com

เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com

Advertisement