ในแต่ละวันที่ต้องขับรถขนส่งไปส่งสินค้าหรือพัสดุให้กับลูกค้าไม่ว่าจะรีบร้อน หรือขับรถด้วยความรวดเร็วแค่ไหน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาหนึ่งที่คนใช้รถใช้ถนนต้องเจอคือปัญหารถติด บางที่ก็ติดเป็นเวลานาน ติดตลอดจนคนขับเกิดความเบื่อ เกิดความเครียดเพราะอาจจะไปส่งของไม่ทันเวลา ต่อให้พยายามออกเดินทางก่อนเวลา หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้ตลอดอยู่ดี เพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถยอมรับกับปัญหา ปล่อยวางและหาแนวทางคลายความเครียดได้ ซึ่ง Bus&Truck ได้หาคำตอบกับวิธีการคลายความเครียดในช่วงรถติดมาให้แล้ว มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้

1.ฟังเพลง/ฟังวิทยุ
สามารถเลือกได้ตามสไตล์และความชอบของแต่ละคนได้เลย เพราะการฟังเพลงหรือฟังวิทยุช่วยคลายความเครียดได้เพราะเพลงมีผลอย่างลึกซึ้งต่อร่างกายและเพิ่มพลังบวก ช่วยลดความกดดันและความวิตกกังวล ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ส่งผลให้สภาพจิตใจดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น เช่น เพลงที่มีจังหวะสนุก ๆ ก็สามารถทำให้เรามีสมาธิในการทำงานได้เพราะมีนักวิจัยพบว่า การฟังเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ที่มีไดนามิกขึ้นลงสลับไปมาทำให้เราทำงานท่ามกลางแรงกดดันได้เป็นอย่างดี และมากไปกว่านั้นการเปิดวิทยุหรือการฟังเพลงก็เปรียบเสมือนการมีเพื่อนร่วมเดินทางไปในตัวด้วย
2.การทำกายบริหาร
แม้แต่การทำกายบริหารง่าย ๆ หรือการบิดขี้เกียจ ระหว่างการขับรถก็สามารถช่วยให้คุณผ่อนคลาย และหยุดอาการกังวลได้อีกด้วย เช่นการกำมือสลับแบมือ ก้มเงยศีรษะ หันหน้าไปซ้าย – ขวา การขยับไหล่ขึ้น – ลง การนวดขมับ นวดหัวคิ้ว และสันจมูก นวดบ่าทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อและช่วยลดความเครียดลงได้ รวมไปถึงการฝึกกำหนดลมหายใจจะช่วยให้คุณมีสมาธิและรู้สึกสงบลงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีที่สามารถทำได้ง่ายคือเทคนิคหายใจเข้าออกสลับกันครั้งต่อครั้ง โดยหายใจเข้าและออกเป็นเวลาเท่ากัน และหนักเบาเท่ากัน การหายใจลึก ๆ อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ออกซิเจนไหลเวียนได้เต็มที่ ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ และทำให้ความดันเลือดคงที่ ตรงกันข้ามกับการหายใจสั้น ๆ ซึ่งอาจจะนำอากาศเข้าไปไม่ถึงส่วนลึกของปอด อาจจะทำให้คุณมีอาการวิตก และหายใจไม่ทันได้
3.อย่าลืมเคลียร์ขยะบนรถ
เพราะห้องโดยสารที่สะอาดย่อมทำให้รถน่านั่งมากขึ้น และสามารถทำให้หยิบจับสิ่งของได้ง่ายขึ้น คุณสามารถใช้เวลาไม่กี่นาทีในช่วงก่อนออกเดินทางหรือเวลารถติดเพื่อเคลียร์ขยะและสิ่งสกปรกในรถได้ นำสิ่งที่ไม่จำเป็นออก นำขยะเช่น เศษถุงขนม ขวดน้ำเปล่า หรือใบเสร็จเก่า ๆ ออกไปทิ้ง เก็บของจิปาถะออกหากไม่ได้ใช้ อย่าลืมดูใต้เบาะที่นั่งเพื่อเช็กของที่ตกอยู่ และเคลียร์พื้นที่ท้ายรถให้เรียบร้อยด้วย
4.อย่าเร่งเครื่องเร็วนัก
การขับรถขนส่งโดยเฉพาะรถขนส่งขนาดบรรทุกสี่ล้อ การขับรถโดยใช้อารมณ์จะทำให้คุณเปลืองเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น ยิ่งกดคันเร่งแรงเท่าไร ยิ่งใช้เชื้อเพลิงมากเท่านั้น เนื่องจากการกดคันเร่งแรงทำให้รถเผาผลาญเชื้อเพลิงมากขึ้นถึง 20% – 30% ซึ่งการควบคุมตัวเองไม่ให้เร่งเครื่องจะช่วยให้คุณประหยัดเชื้อเพลิงและรู้สึกผ่อนคลายขณะขับรถมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถตอบสนองได้ทันต่อสถานการณ์บนถนน และจะทำให้คุณใจเย็นมากขึ้น และสามารถลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
5.มีสมาธิไม่ต้องสนใจรถคันอื่นมากนัก
บางครั้งเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนก็อาจจะทำให้คุณเครียดยิ่งกว่าปัญหารถติดเสียอีก และหลายครั้งก็ยังผลกระทบต่อการขับรถของคุณโดยเฉพาะประเภทคนขับจอมจี้ท้ายและมอเตอร์ไซค์ขาซิ่ง แต่การปล่อยวางก็สามารถทำให้คุณใจเย็นขึ้น คุณควรหันมามีสมาธิไปกับการขับขี่ของคุณเองดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการขับอย่างผาดโผนของรถคันอื่นที่อาจจะเป็นอันตรายกับคุณ ด้วยการหลีกเข้าเลนในสุด เพื่อให้รถที่เร็วกว่าแซงไปก่อน แล้วค่อยกลับมาใช้เลนเดิมได้เมื่อต้องการ สุดท้ายแล้วการตื่นตัวตลอดเวลาก็ทำให้การขับขี่ปลอดภัยได้ดีที่สุด

การรู้วิธีกำจัดความเครียด ความกังวลและการมีสมาธิจดจ่ออยู่บนท้องถนนอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่รถขนส่งทุกคนควรรู้และปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าคุณจะหงุดหงิดหรือเครียดต่อการจราจรแค่ไหนก็ตาม เพื่อไม่ให้กระทบต่องาน รถ และสินค้า ผู้ขับรถขนส่งจึงควรมีสติให้มาก ๆ แต่เพราะอุบัติเหตุบางครั้งเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ จะดีกว่าไหมหากคุณมีประกันรถบรรทุกชั้นยอดที่จะกอดคุณไว้ตลอดการเดินทางเสมือนเกราะป้องกันทั้งรถและคุณได้เป็นอย่างดีกับ ประกันรถบรรทุกจาก นำสินประกันภัย ที่ห่วงใยคุณมากกว่าใคร ให้ทุกการเดินทางและการทำงานของคุณสบาย ไร้ความกังวล
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก :
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- อุ่นใจ หายห่วงกับอุปกรณ์เสริมที่ควรมีในรถบรรทุกขนส่งสินค้า
- เตือน! 5 สิ่งที่ไม่ควรทิ้งไว้ในรถขนส่งโดยเฉพาะเมื่อจอดรถกลางแจ้งนาน ๆ
- 5 พฤติกรรมที่ควรหยุดทำถ้าไม่อยากทำร้ายรถขนส่ง
- หยุด! อาการง่วงด้วยอาหารและเครื่องดื่มแก้ง่วงเพื่อผู้ขับขี่รถขนส่งและรถบรรทุก
โดย…เวโย
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com