จะทำธุรกิจนำเข้าส่งออก ธุรกิจขนส่ง หรือธุรกิจโลจิสติกส์สิ่งที่ควรรู้คือพิธีทางศุลกากรทั้งนำเข้าส่งออก ซึ่งถือเป็นด่านสำคัญก่อนที่จะสามารถนำสินค้าส่งออกหรือนำเข้าเพื่อไปยังศูนย์กระจายสินค้าและกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้ บางครั้งก็มีทั้งบริษัทที่ทำเอง หรือบางบริษัทก็จ้างให้บริษัทที่เป็นคนกลางในการนำเข้าส่งออกจัดการเคลียร์พิธีการศุลกากรแทน อย่างไรก็ตามต้องมีเอกสารและข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนตามที่ศุลกากรต้องการ เพื่อให้การดำเนินการผ่านไปได้โดยง่าย ไม่มีปัญหาทีหลัง วันนี้ Bus&Truck จึงอยากจะพาคุณไปรู้จักกับพิธีการศุลกากรนำของเข้าทางบก จะเป็นอย่างไรไปเรียนรู้กันเลย
- การรายงานยานพาหนะเข้าและการยื่นบัญชีสินค้าทางบก (Car Manifest)
ผู้รับผิดชอบควบคุมการขนส่งสินค้ามีหน้าที่รายงานยานพาหนะเข้าและยื่นบัญชีสินค้าทางบก (Car Manifest) ตามแบบ ศบ.1 เมื่อยานพาหนะจากต่างประเทศมาถึงด่านพรมแดนทางบก โดยการส่งข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มายังระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ของกรมฯ ได้รับข้อมูลและทำการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ต่อมาระบบฯ ทำการออกเลขที่รับรายงานยานพาหนะ (Received Control Number) ให้แก่ผู้รับผิดชอบการขนส่งเพื่อนำมาแสดงต่อพนักงานศุลกากร ณ ด่านพรมแดนทางบกที่ได้มาถึง เจ้าพนักงานศุลกากรตรวจสอบข้อมูลเพื่ออนุญาตให้ควบคุมยานพาหนะไปยังด่านศุลกากรเพื่อปฏิบัติพิธีการยื่นใบขนสินค้าขาเข้าต่อไป
กรณีผู้รับผิดชอบการขนส่งสินค้า ไม่สามารถส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เองได้ ให้กรอกรายละเอียดในรายงานยานพาหนะเข้าและบัญชีสินค้าทางบก (Car Manifest) ตามแบบ ศบ.1 ให้ครบถ้วน นำมายื่นแบบศบ.1 ต่อพนักงานศุลกากรประจำด่านพรมแดนเพื่อตรวจสอบและส่งข้อมูลเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของกรมฯ เพื่อออกเลขที่รับรายงานยานพาหนะ (Received Control Number) ก่อนอนุญาตให้ควบคุมยานพาหนะไปยังด่านศุลกากร
- การยื่นใบขนสินค้าขาเข้า
เมื่อยานพาหนะที่บรรทุกสินค้าได้ผ่านด่านพรมแดนมายังด่านศุลกากร ในกรณีที่เป็นสินค้าทั่วไป ผู้นำของเข้าจะต้องจัดทำ “ใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมแบบแสดงรายการภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม (กศก. 99/1 )” ตามมาตรฐานและรูปแบบที่กรมศุลกากรกำหนด โดยส่งข้อมูลใบขนสินค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มายังระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ของกรมฯ ได้รับข้อมูลแล้วจะทำการตรวจสอบและตัดบัญชีสินค้าทางบก (Car Manifest) หากพบว่าข้อมูลถูกต้องตามมาตรฐานและรูปแบบที่กำหนด ระบบคอมพิวเตอร์จะตอบกลับและออกเลขที่ใบขนสินค้าขาเข้าเพื่อให้ผู้นำของเข้าไปดำเนินการชำระภาษีอากรและรอรับการตรวจปล่อยออกจากอารักขาศุลกากรต่อไป
- การชำระค่าภาษีอากร
เมื่อผู้นำของเข้าได้ยื่นข้อมูลใบขนสินค้าเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากรและได้รับการตอบกลับเลขที่ใบขนสินค้าแล้ว ผู้นำของเข้าจะต้องดำเนินการชำระค่าภาษีอากร (ถ้ามี) และค่าธรรมเนียมศุลกากรให้แล้วเสร็จก่อนไปดำเนินการรับการตรวจปล่อยของออกจากอารักขาศุลกากร โดยผู้นำของเข้าสามารถชำระค่าภาษีอากรและค่าธรรมเนียมศุลกากรได้ 3 ช่องทางดังต่อไปนี้
3.1 ชำระด้วยตนเองที่หน่วยรับชำระเงินทุกแห่งของกรมศุลกากร ทั้งในรูปแบบเงินสด บัตรภาษี บัตรเดบิต บัตรเครดิต และเช็คของผู้ประกอบการที่มีธนาคารค้ำประกันและได้รับอนุมัติจากกรมศุลกากร
3.2 ชำระในระบบ e-Payment คือ การชำระเงินค่าภาษีอากรพร้อมกับการส่งข้อมูลใบขนสินค้า โดยการตัดยอดบัญชีธนาคารของผู้นำของเข้าตามที่ได้แจ้งไว้กับกรมศุลกากร
3.3 ชำระในระบบ e-Bill Payment คือ การใช้เอกสารของกรมศุลกากร (เช่น ใบขนสินค้า ใบสั่งเก็บ)ซึ่งมี QR Code หรือ Bar Code หรือเลขอ้างอิงตามที่ปรากฏในเอกสารนั้น ไปชำระ ณ เคาน์เตอร์ของธนาคาร หรือ Internet Banking หรือ ATM หรือช่องทางการรับชำระเงินอื่น ๆ ของธนาคาร หรือ ผ่านตัวแทนรับชำระเงินที่ทำความตกลงกับกรมศุลกากร ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิสของ 7-11 และ บิ๊กซี
- การตรวจปล่อยของออกไปจากอารักขาศุลกากร
เมื่อผู้นำของเข้าได้ยื่นใบขนสินค้าพร้อมชำระค่าภาษีอากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากรจะทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากข้อมูลในใบขนสินค้าดังกล่าว แล้วแจ้งคำสั่งการตรวจให้ผู้นำของเข้าทราบเพื่อดำเนินการตามคำสั่งการตรวจต่อไป เช่น
4.1 กรณีมีคำสั่ง “ยกเว้นการตรวจ (Green Line)” ผู้นำของเข้าสามารถไปติดต่อเจ้าพนักงานศุลกากรเพื่อนำของออกจากอารักขาได้ทันที
4.2 กรณีมีคำสั่ง “ให้เปิดตรวจ (Red Line)” ผู้นำของเข้าต้องติดต่อเจ้าพนักงานศุลกากรเพื่อทำการตรวจสอบของก่อนนำของไปจากอารักขา
4.3 กรณีมีคำสั่ง “ให้พบพนักงานศุลกากรเนื่องจากได้รับยกเว้นใบอนุญาต (Yellow Line)” ผู้นำของเข้าต้องติดต่อเจ้าพนักงานศุลกากรเพื่อตรวจสอบเงื่อนไขการได้รับยกเว้นใบอนุญาตก่อนนำของไปจากอารักขา
อย่างไรก็ตามการขนส่งทางบกถือเป็นการขนส่งอีกประเภทที่สำคัญและนิยมมาก ๆ ในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นการขนส่งในประเทศและประเทศใกล้เคียงก็มักจะใช้การขนส่งทางบกเช่น ทางรถไฟ หรือทางรถบรรทุกเป็นหลัก แต่การขนส่งทางบกก็ต้องพึ่งรถบรรทุกเสียส่วนใหญ่เพราะฉะนั้นควรหารถบรรทุกดี ๆ เพื่อกิจการอย่างรถบรรทุกของ CP FOTON ที่คุณสามารถพึ่งพาได้และมั่นใจในทุกเส้นทางของการขนส่ง
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก :
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- อุ่นใจ หายห่วงกับอุปกรณ์เสริมที่ควรมีในรถบรรทุกขนส่งสินค้า
- เตือน! 5 สิ่งที่ไม่ควรทิ้งไว้ในรถขนส่งโดยเฉพาะเมื่อจอดรถกลางแจ้งนาน ๆ
- 5 พฤติกรรมที่ควรหยุดทำถ้าไม่อยากทำร้ายรถขนส่ง
- หยุด! อาการง่วงด้วยอาหารและเครื่องดื่มแก้ง่วงเพื่อผู้ขับขี่รถขนส่งและรถบรรทุก
โดย…เวโย
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com