เมื่อวานนี้ เวลา 14.00 น. รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ครั้งที่ 2/2565 (ครั้งที่ 4) ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารรัฐสภา โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองประธานกรรมการ และมีกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม มีผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นกรรมการและเลขานุการ
นายอนุทิน และ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ สืบเนื่องมาจากนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งได้มีการประชุมมาแล้ว 3 ครั้ง
ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2565 (ครั้งที่ 3) ได้มอบหมายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการฯ แล้วและเร่งรัดศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้มีข้อมูลมาประกอบการพิจารณาร่วมกับผลการศึกษาของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งศึกษาแล้วเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม 2564
นอกจากนี้ ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 ซึ่งได้มอบหมายให้คณะกรรมการฯ พิจารณาข้อร้องเรียนของเอกชนคู่สัญญาโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ โดยตรวจสอบผลกระทบจากทั้ง 2 สนามบิน (ดอนเมือง/สุวรรณภูมิ) ต่อสนามบินอู่ตะเภาด้วย ดังนี้
1. ความก้าวหน้าการดำเนินงานจ้าง ICAO เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะนี้ทอท. อยู่ระหว่างหารือร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาร่างข้อตกลง สำหรับการจ้าง ICAO เพื่อให้ได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินงานตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อนลงนามในสัญญาจ้าง โดยคาดจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้
2. ความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก ที่ประชุมรับทราบแนวทาง เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางการบินในปัจจุบัน โดยใช้ระยะเวลา 7 เดือน จะแล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคมนี้ และจะนำเสนอคณะกรรมการทอท. ก่อนนำเสนอครม. พิจารณาเห็นชอบตามขั้นตอนต่อไป
ดังนั้นคาดว่าจะดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างและก่อสร้างได้ในปี 2566 ใช้ระยะเวลา 29 เดือน จะเสร็จในเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะกลับมาในระดับประมาณ 65 ล้านคนต่อปี
3. การดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 ที่ประชุมมอบหมายให้ทอท. พิจารณาตรวจสอบข้อสัญญาและเงื่อนไขการร่วมลงทุนโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ ให้ชัดเจนว่า การพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองของทอท. ส่งผลกระทบต่อการประกอบการ การดำเนินโครงการฯ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ อันเป็นการกระทำที่ผิดต่อสัญญาร่วมลงทุนตามข้อใดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทและฟ้องร้องต่อรัฐได้ พร้อมกับให้กระทรวงคมนาคมมีหนังสือแจ้งยืนยันผลการพิจารณาไปให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ทราบด้วย
ขอบคุณข่าวประชาสัมพันธ์จาก: ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- รู้หรือไม่ ส่งสินค้าออกทางบก ต้องทำอย่างไรบ้าง?
- บขส.ไม่หวั่นช่วงหยุดยาว กรกฎาคม 2565 เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนไว้แล้ว
- สุขภาพจิตเกี่ยวข้องกับการขับรถขนส่งอย่างไร
โดย…เทลเลอร์
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com