เป็นที่ทราบกันดีว่า การจอดรถริมทางนั้นเป็นการสร้างความเสี่ยงให้กับตัวเองและผู้ร่วมทางคนอื่นเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงไม่ควรมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยจนเพิกเฉยและคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุชนท้ายรถที่จอดรถตามไหล่ทางหรือริมถนนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องในลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนโดยเฉพาะในแถบต่างต่างจังหวัด วันนี้เราจึงอยากชวนคุยเรื่อง “จอดรถบรรทุกข้างทาง ทำอย่างไร? ให้ปลอดภัยและไม่ผิดกฎหมาย”
สำหรับ เรื่องนี้เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกได้เคยกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนส่งที่มีส่วนสำคัญในการร่วมรับผิดชอบป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งได้กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจัดเตรียมเครื่องหมายหรือสัญญาณสำหรับแสดงเมื่อจำเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทางไว้ประจำรถเป็นหนึ่งในมาตรฐานเพื่อการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนจากด้านหลังรถบรรทุกที่จอดฉุกเฉินในทางหรือไหล่ทาง (กรณี คดีตัวอย่าง เรื่องการจอดรถบรรทุกริมทาง แล้วมีผู้เสียชีวิต)
ดังนั้น เพื่อให้รูปแบบของเครื่องหมายหรือสัญญาณดังกล่าวให้มีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิถีชีวิต โดยยังคงกำหนดคุณสมบัติและวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง การจัดให้มีเครื่องหมายหรือสัญญาณที่จะต้องแสดงเมื่อจำเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2561 เป็นต้นมา
โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตขนส่งมีหน้าที่ต้องจัดเตรียมเครื่องหมายหรือสัญญาณไว้ประจำรถจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ชิ้นต่อคัน โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือใช้หลายรูปแบบร่วมกัน ประกอบด้วย เครื่องหมายเตือนรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า, กรวยสะท้อนแสง, โคมไฟสัญญาณ เพื่อวางบริเวณด้านหน้าและด้านท้ายรถกรณีที่เครื่องยนต์หรือเครื่องอุปกรณ์ของรถขัดข้อง โดยวางเครื่องหมายหรือสัญญาณในระยะห่างจากรถไม่น้อยกว่า 50 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเตือนให้ผู้ใช้รถอื่นสังเกตเห็นและหลีกเลี่ยงหรือหยุดรถได้อย่างปลอดภัย และให้รีบดำเนินการแก้ไขเคลื่อนย้ายรถออกจากทางเดินรถหรือไหล่ทางโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
สำหรับรูปแบบของเครื่องหมายหรือสัญญาณที่จะต้องแสดงเมื่อจำเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง ทั้ง 3 รูปแบบ มีลักษณะรายละเอียด ดังนี้
1.เครื่องหมายเตือนรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ยาวไม่น้อยกว่าด้านละ 50 เซนติเมตร พร้อมขาตั้งหรือฐานตั้ง ขอบสีแดงสะท้อนแสง ด้านในเครื่องหมายอาจมีพื้นสีขาวและรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำหัวท้ายมนในแนวดิ่ง หรือมีแถบสะท้อนแสงสีแดงเพิ่มเติม หรือเป็นพื้นที่เปิดโล่งก็ได้
2.กรวยสะท้อนแสง ต้องสูงไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร ฐานตั้งกว้างไม่น้อยกว่า 28 เซนติเมตร พื้นสีส้มตลอดทั้งอัน มีแถบสะท้อนแสงสีขาวกว้างไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร คาดตามแนวนอนโดยรอบอย่างน้อย 1 แถบ
3.โคมไฟสัญญาณ ขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 6 เซนติเมตร สูงไม่น้อยกว่า 24 เซนติเมตร พร้อมขาตั้งหรือฐานตั้ง ส่วนของไฟสัญญาณต้องเป็นไฟสีเหลืองอำพันกะพริบและไฟสีขาว
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการขนส่งไม่จัดเตรียมเครื่องหมายไว้ประจำรถตามที่กำหนด มีความผิดตามกฎหมายฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ.2558 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนกรณีผู้ขับรถละเลยไม่แสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณเมื่อจำเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และหากเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับรถและผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
พักเหนื่อยให้ปลอดภัย จอดไหนดี?
ในอดีตนั้น จากที่อุบัติเหตุมักเกิดขึ้นกับรถบรรทุก เนื่องจากรถบรรทุกไม่สามารถจอดพักผ่อนตามปั๊มน้ำมันเหมือนกับรถยนต์ทั่วไปได้ จึงจำเป็นต้องจอดริมทาง อีกสาเหตุที่ทำให้เกิดอันตราย แต่ปัจจุบันปั๊มน้ำมันบางแบรนด์ได้จัดสรรพื้นที่ไว้ให้บรรดารถใหญ่มาใช้บริการและจอดพักได้โดยเฉพาะ หรือแม้แต่การเกิดขึ้นของจุดพักรถบรรทุกกรมทางหลวง ที่ปัจจุบันเริ่มมีตามถนนสายหลักแล้วหลายแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนขับรถบรรทุก
- เหตุผลที่หลายคน’เรียนขับรถใหญ่’ เพื่อใช้สมัครงานขับรถขนส่ง
- ขับรถขนส่งต้องมีทัศนคติขับขี่ปลอดภัย “ไม่เสพ ไม่ซิ่ง ไม่เสี่ยง” เพื่อการเกิดเลี่ยงอุบัติเหตุ
- สัญลักษณ์วัตถุอันตรายท้ายรถบรรทุก ความเสี่ยงและเครื่องหมายที่ควรต้องรู้
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com