เนื่องจากในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นวันหยุดยาว 3 วัน (ตั้งแต่วันที่ 12 – 14 ส.ค. 65) หลาย ๆ คนมักเลือกที่จะเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยวต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นขสมก. จึงได้จัดแผนการเดินรถโดยสารรองรับการเดินทางของประชาชน เพื่ออำนวย ความสะดวก ปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง เฉลี่ยวันละ 2,750 คัน จำนวน 17,111 เที่ยว
2. จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 5 เส้นทาง รวม 47 คัน ดังนี้
– สาย A1 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร เฉลี่ยวันละ 15 คัน
– สาย A2 ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉลี่ยวันละ 12 คัน
– สาย A3 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี เฉลี่ยวันละ 7 คัน
– สาย A4 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 7 คัน
– สาย S1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 6 คัน
3. จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ จำนวน 5 สถานี รวม 34 เส้นทาง ดังนี้
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) จำนวน 12 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 16, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517, และ 536
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย 2, 23, 25, 71, 72, 501, 508 และ 511
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 66, 79, 511, 515, 516 และ 556
– สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 4, 21, 25, 34, 73 และ 501
– สถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สาย 49 และ 67
มาตรการความปลอดภัย
ด้านพนักงานประจำรถ
1. กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร ดูแลการขึ้น – ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย
2. ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร
3. ให้พนักงานขับรถตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกให้บริการ ประสานผู้รับเหมาซ่อมรถ ตรวจเช็กสภาพรถโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี
4. จัดพนักงานนายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น – ลงรถของผู้ใช้บริการ
ด้านรถโดยสารประจำทาง
1. เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่าน
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น
3. ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน“ไทยชนะ”บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้าง ภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือนผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์
4. ติดตั้งป้ายข้อความ “เหลือรถอีก 2 คันสุดท้าย” “เหลือรถอีก 1 คันสุดท้าย” “รถคันสุดท้าย” บริเวณกระจกด้านหน้ารถโดยสารที่วิ่งให้บริการ 3 คันสุดท้ายในแต่ละวัน
ด้านผู้ใช้บริการ
1. ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร
2. ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่ติดตั้งบริเวณประตูทางขึ้น
3. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรสแกน QR Code แอปพลิเคชัน“ไทยชนะ”บนรถโดยสาร เพื่อเช็กอินเมื่อขึ้นรถ และเช็กเอาท์ก่อนลงจากรถ สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. ทุกประเภท ควรลงทะเบียนบัตรที่ bmta.co.th เพื่อให้บัตรดังกล่าว สามารถเช็กอิน – เช็กเอาท์ โดยอัตโนมัติ เมื่อนำบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ มาแตะที่เครื่อง EDC เพื่อชำระค่าโดยสาร
4. ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด
5. ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของ ขสมก. บัตรเดบิต – เครดิตที่มีสัญลักษณ์คอนแทกต์เลส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโมไบล์แบงก์กิ้ง เพื่อลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ที่อาจเป็นสื่อกลางในการแพร่เชื้อโรคฯ
นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเดินรถ ได้แก่ ศูนย์วิทยุรัชดา สำนักงานใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ศูนย์วิทยุเขตการเดินรถที่ 1 – 8 ตั้งแต่วันที่ 12 – 15 สิงหาคม 2565 และจัดเจ้าหน้าที่ Call Center 1348 ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารในการเดินรถอีกด้วย
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- Toyota เตรียมเจาะธุรกิจขนส่ง ด้วยรถบรรทุกขนาดเล็กที่ใช้ ‘เชื้อเพลิงไฮโดรเจน’
-
ALL NEW AUMARK FLEX ตอบโจทย์ทุกธุรกิจขนส่งด้วยนวัตกรรมรถบรรทุกรวดเร็ว ประหยัด ไม่ติดเวลา
- CargoX สตาร์ทอัพสัญชาติไทย จับมือพันธมิตรพร้อมชูจุดแข็งเลือกเวลารับพัสดุได้ตามใจลูกค้า
- การท่าเรือฯ เร่งแก้ปัญหารถติดในเขตท่าเรือแหลมฉบัง
โดย…เทลเลอร์
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com