ในวงการขนส่ง คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณภาพของพนักงานขับรถเป็นสิ่งที่ต้องเข้มงวดตั้งแต่ต้น เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกควรมีการสอบสัมภาษณ์คนขับ หยั่งเชิงความรู้เรื่องรถ กฎจราจร ซึ่งในปัจจุบันผู้ประกอบการขนส่งเริ่มใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้น หรือบางทีอาจมีการตรวจร่างกาย และการทดสอบขับรถ รวมถึงการควบคุมดูแลและการตรวจวัดผลการทำงาน หรือบางที่อาจมีการประเมินทัศนคติ และจิตสำนึกในเรื่องของความปลอดภัยบนท้องถนนของพนักงานด้วย
จำเป็นแค่ไหน ทำไม? พนักงานขับรถต้องพัฒนาทักษะตัวเอง
สำหรับการพัฒนาความสามารถในการทำงานของพนักงานขับรถ แน่นอนว่านอกเหนือจากทักษะการขับรถจะมีความก้าวหน้าแล้ว ยังส่งผลต่ออาชีพและความมั่นคงในชีวิตและครอบครัวให้มีความก้าวหน้าตามไปด้วย ซึ่งประสิทธิผลเหล่านี้จะกลับมาเสริมความมั่นคงในสายงานย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น พนักงานขับรถขนส่งจึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ดังนี้
ทักษะการขับรถอย่างปลอดภัย
เพราะคนขับรถในบ้านเรานั้นมีจำนวนไม่น้อยที่ฝึกขับด้วยตนเองหรือ ต่างกันกับต่างประเทศที่มีโรงเรียนสอนขับรถใหญ่แบบจริงจัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนขับรถในบ้านเราไม่มีมาตรฐานซะทีเดียว อย่างไรก็ดี เบื้องต้นคนที่เลือกจะทำอาชีพนี้ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการขับรถอย่างถ่องแท้และจิตสำนึกด้านความปลอดภัย มีความรู้ ความเข้าใจในระเบียบและมาตรฐานการขับรถอย่างปลอดภัยตามที่กำหนด รวมถึงรู้จักวิธีการและแนวทางป้องกันและหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดจากงานที่อาจส่งผลต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย (เหตุผลที่หลายคน’เรียนขับรถใหญ่’ เพื่อใช้สมัครงานขับรถขนส่ง คลิ๊ก)
ทักษะในการให้บริการลูกค้า
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการวิชาชีพขับรถ ซึ่งพนักงานขับรถต้องมีความเข้าใจและแสดงออกถึงความพยายามที่จะรับฟังและเข้าใจลูกค้า สามารถคาดการณ์และรับรู้ถึงความต้องการหรือความหวังของลูกค้า รวมทั้งมีความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองต่อความพึงพอใจของลูกค้า ตลอดจนมีความอดทนต่อความเครียดหรือความกดดันเกิดจากการให้บริการด้วย
ทักษะด้านการสื่อสาร
สำหรับทักษะด้านนี้หมายถึงการแสดงออกถึงการรับฟังและเข้าใจประเด็นปัญหา เหตุการณ์และเรื่องราวต่าง ๆ ของบุคคลที่สื่อสารด้วย รวมทั้งสามารถโต้ตอบกลับได้อย่างเหมาะสม พร้อมกับมีความสามารถในการแลกเปลี่ยนหรือรายงานข้อมูล ตลอดจนสามารถแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ได้อย่างชัดเจนได้ใจความ รวมทั้งสามารถสื่อสารได้เหมาะสมกับผู้ฟังในระดับที่แตกต่างกันตามบริบทหรือสถานการณ์ต่างๆ
ทักษะในการขับขี่อย่างมืออาชีพ
เพราะแกนหลักในอาชีพพนักงานขับรถคือความสามารถในการใช้และขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการขององค์กร รวมถึงทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับกฎจราจรและเครื่องหมายป้ายจราจรต่าง ๆ
มีความรู้เกี่ยวกับเส้นทางในการขับขี่
ผู้ขับขี่ต้องศึกษาความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการขับรถ เส้นทาง โดยเฉพาะการเดินทางไปตามรูทต่างๆ ที่ตนเองต้องวิ่ง เพราะการขับรถหลงทางไม่ใช่เรื่องดี ในแง่ธุรกิจมีแต่ข้อเสีย เช่น หากเดินทางอ้อมไปในสเนทางที่ไกลกว่าก็ย่อมเสียเวลา และเสียค่าน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น พนักงานขับรถจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย
มีความรู้เรื่องข้อห้ามและกฎหมายขนส่ง
เช่น รถบรรทุกขนาด 4 ล้อ ต้องบรรทุกไม่เกิน 9.5 ตัน, รถบรรทุกขนาด 6 ล้อ ต้องบรรทุกไม่เกิน 15 ตัน, รถบรรทุกขนาด 10 ล้อ ต้องบรรทุกไม่เกิน 25 ตัน และรถพ่วง 6 เพลา 22 ล้อ ต้องบรรทุกไม่เกิน 50.5 ตัน เป็นต้น
ทัศนคติในการขับรถปลอดภัย
นอกเหนือจากทักษะต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น สิ่งสำคัญอีกอย่างของอาชีพนี้ คือ แนวความคิดทัศนคติในการขับ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของเราที่มีต่อการขับรถ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงภัย หลีกเลี่ยงการกระทำที่ไม่ปลอดภัย ไม่ยึดติดกับความถูก – ความผิด แต่รู้จักให้อภัยกับคนที่ขับรถผิดกฎจราจร เพื่อให้ทั้งเขาและเรา หรือทุกฝ่ายรอดพ้นจากการเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม หากปราศจากทัศนคติที่ถูกต้องและความมุ่งมั่นที่จะขับรถให้ปลอดภัย ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
โดยทัศนคติในการขับรถปลอดภัย ประกอบด้วย 1.เอื้ออาทรต่อผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นเสมอ 2.ยอมรับและเตรียมพร้อมสำหรับความผิดพลาดของผู้อื่น 3.ยอมรับว่าไม่มีงานใดที่เร่งด่วนจนกระทั่งทำให้ต้องขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด 4.ต้องเข้าใจว่าการขับรถเป็นทักษะที่ต้องประกอบด้วยเทคนิคต่าง ๆ ที่ถูกต้อง 5.ต้องมีความพร้อมอยู่เสมอทั้งร่างกายและจิตใจ และ 6.เตือนตัวเองเสมอว่ารถไม่สามารถอยู่ในสภาพปลอดภัยได้ หากขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง
ถ้าคนขับเข้าใจรถจะช่วยลดต้นทุนในธุรกิจได้
ประเด็นนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะก่อนจะไปสมัครงานหากคนขับรถไม่ศึกษาและทำความเข้าใจรถที่บริษัทนั้นๆ ใช้ให้ดี ต่อให้มีรถรุ่นใหม่หรือทันสมัยเพียงใดก็ไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจทำให้เกิดค่าบำรุงรักษาที่เกิดจากการใช้ผิดประเภทหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนเกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมากขึ้น ดังนั้น ผู้ขับรถต้องมีความรู้เกี่ยวกับรถ รวมถึงเทคโนโลยีของรถที่ผลิตขึ้นมาในรุ่นใหม่ตามไปด้วย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- เหตุผลที่หลายคน’เรียนขับรถใหญ่’ เพื่อใช้สมัครงานขับรถขนส่ง
- ก่อนซื้อรถบรรทุกมาขับรับงานขนส่ง มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องรู้?
- 10 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำระหว่างขับรถขนส่ง
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com