เพราะยังมีผู้คนที่อยากทำธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่ยังมองข้ามเรื่องนี้ไป คือ อยากทำธุรกิจเป็นของตนเองแต่ไม่มี Mindset ของความเป็นนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการเลย ซึ่งทำให้การดำเนินธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้จะมองหาธุรกิจใหม่ไปเรื่อยก็ยากที่จะไปถึงฝั่งฝันได้
ในขณะที่คนมี Mindset ที่ดี เมื่อเจอปัญหาหรืออุปสรรคใด ก็จะหาวิธีแก้ไขหรือทางออกเพื่อทำให้สำเร็จจนได้ แม้จะยากลำบากอย่างไรก็อดทนทำงานหนักอย่างไม่ย่อท้องต่อความยำลำบาก ดังนั้น ผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่มีสิ่งนี้ต้อง ต้องสำรวจตัวเองและพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อยกระดับความสามารถตนเอง
สำหรับคำว่า Mindset คือ ทัศนคติและวิธีคิด ของแต่ละบุคคล ซึ่งจะที่มันจะมีผลต่อการกระทำและการตัดสินใจ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งหากคุณเป็นผู้ประกอบการหรือมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะการมี Mindset ที่ดีจะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ แต่หากไม่มีก็สามารถเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเองได้ โดยมีแนวทางดังนี้
1. มีเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ
เมื่อมองเห็นโอกาสแห่งความเป็นไปได้ พร้อมทั้งพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ควรมุ่งมั่นใช้พลังงาน ใช้ความคิดและสติปัญญา ทุ่มเทความสามารถทั้งหมดให้กับงาน เพื่อให้บรรลุความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ไปทีละลำดับขั้น โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก หากมีความผิดพลาดต้องเรียนรู้ถึงความผิดพลาดจากที่ผ่านมา เพื่อทำให้ประสบความสำเร็จ
2. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
หากผู้ประกอบการขนส่งต้องการประสบความสำเร็จ เรื่องความคิดสร้างสรรค์ก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ยึดติดกับสิ่งซ้ำเดิมอย่างที่เคยเป็นในอดีต ต้องรู้จักเอาประสบการณ์ที่ผ่านมา นำมาประยุกต์ใช้และหาวิธีการใหม่ที่ดีกว่าเดิม มาใช้กับการบริหารธุรกิจ หาแนวทางพัฒนาสินค้าและบริการ ปรับปรุงวิธีการทำงานอยู่เสมอเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และหาสิ่งแปลกใหม่เข้าไปในตลาดอย่างต่อเนื่อง
3. มุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย
เมื่อการตั้งเป้าหมาย มีการวาดภาพจินตนาการไปถึงความสำเร็จ และจะต้องทำอย่างไรถ้าล้มเหลว จะเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย พร้อมทั้งต้องศึกษาหาความรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการวางแผน มีขั้นตอนอย่างเป็นระบบชัดเจน แล้วทำตามแผนรอบคอบ
4. มีทักษะในการโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นได้
ผู้ประกอบการที่ดีนอกจากมีความสามารถในการทำงานแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการชักจูงโน้มน้าวจิตใจ ผู้อื่นให้ความร่วมมือช่วยเหลือในการทำงาน รู้จักใช้ความสามารถในการทำงานสร้างทัศนคติและแรงจูงใจต่อผู้ร่วมงานให้สามารถเข้าใจการทำงาน เต็มใจปฏิบัติงานตามที่วางไว้
5. ไม่ถอดใจเมื่อต้องทำงานหนัก
เมื่อพิจารณารอบคอบแล้วตั้งเป้าหมาย ทุ่มเทให้ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ หรือต้องตกอยู่ในสภาวะที่กดดันอย่างยิ่ง ต้องไม่หยุดนิ่งที่จะดิ้นรนทำงานหนักเพื่อขับเคลื่อนงานให้ไปสู่เป้าหมายได้
6. เอาประสบการณ์ในอดีตมาเป็นบทเรียน
เป็นคุณลักษณะสำคัญที่ควรจะปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการทุกธุรกิจ ซึ่งเป็นการมองในอดีตที่เคยทำผิดพลาด นำมาเป็นบทเรียนสะท้อนไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก หรือนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานหรือนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการทำงาน ให้มุ่งไปสู่การทำงานที่ดีกว่าเดิม เขาจะมองเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ ในการทำงาน
7. มีทักษะด้านการบริหารและเป็นผู้นำที่ดี
มีลักษณะการเป็นผู้นำ รู้หลักการบริหารงาน เมื่อต้องทำงานร่วมกับคนหลายระดับในภาวะที่แตกต่างกันออกไป ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ลักษณะของความเป็นผู้นำก็ย่อมแตกต่างกันไป โดยเฉพาะระยะเริ่มทำธุรกิจ จะต้องรับบทเป็นผู้นำ ที่ลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง ทำงานหนัก เพื่อให้บรรลุความสำเร็จ
8. แยกเงินที่ใช้ในธุรกิจกับเงินส่วนตัวออกจากกัน
เรื่องนี้ก็สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น เพราะถ้าลงทุนทำธุรกิจแล้ว บัญชีที่เป็นของธุรกิจนั้นต้องมีการวางระบบให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เห็นภาพรวมของธุรกิจทั้งหมดอย่างชัดเจนว่ารายการบัญชีแต่ละส่วนนั้นเป็นอย่างไร มีผลกำไร ขาดทุน รายได้ และมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมหรือไม่ หากพบต้นตอของปัญหาต้องรีบแก้ไขเพื่อให้ธุรกิจมีกำไรและสามารถเติบโตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรระวังเรื่องการนำเงินส่วนตัวมาปนกับเงินที่ใช้หมุนเวียนในธุรกิจ เพราะจะทำให้เราไม่ทราบผลกำไรหรือรายได้ของที่แท้จริงของกิจการ
หรือถ้าใครกำลังเป็นอยู่ก็ควรรีบวิธีแก้ปัญหาคือแยกเงินส่วนตัวและเงินธุรกิจออกจากกัน และทำการเบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นระบบ เช่น การแยกบัญชีเงินส่วนตัว และบัญชีเงินทุนในกิจการที่ง่ายที่สุด คือ การกำหนดเงินเดือนให้ตนเอง แล้วจึงนำเงินเดือนไปใช้ในกิจส่วนตัว ซึ่งจะสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นว่าส่วนไหนเป็นรายจ่าย ส่วนไหนเป็นรายรับของธุรกิจ เป็นต้น
9. มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจแล้ว ย่อมมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร หากต้องการนำพาธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือรายย่อย สิ่งสำคัญเบื้องต้นที่ต้องมีคือ “วิสัยทัศน์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมายข้างหน้า ดังนั้น เมื่อเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วต้องเป็นผู้ที่สามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้าได้ และพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต
10. แสวงหาความรู้ใหม่และเปิดใจรับเทคโนโลยี
ผู้ประกอบการ ต้องเปิดใจให้กว้างพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีแล้ว เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงใหม่แทบทุกวัน ต้องหมั่นเรียนรู้และก้าวตามให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านโซเชียลมีเดีย การอัปเดตโซลูชันใหม่ๆ เช่น เทเลเมติกส์-IOT เทคโนโลยีที่ช่วยตรวจสอบและป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงของขับรถขนส่งได้ นำมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานขนส่ง ตลอดจนหาระบบใหม่ๆ มาช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ BUS & TRUCK ยกตัวอย่างมาให้เห็นเพื่อเป็นแนวทางเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการขนส่งควรตระหนักเอาไว้เสมอว่า การทำธุรกิจขนส่งนั้น มีตัวแปรสำคัญหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาพลังงานเชื้อเพลิง หรือแม้แต่การออกกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ จากทางภาครัฐ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในสายงานนี้ ต้องศึกษาหาความรู้อย่างรอบด้านเพื่อรู้จักวิธีป้องกันความเสี่ยงในการบริหารงาน และต้องมีการวางแผนและปรับกลยุทธ์ให้เท่าทันต่อสถานการณ์แต่ละช่วงด้วย
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- “คนทำธุรกิจขนส่ง”ห้ามมองข้าม กับ 4 ตัวแปรหลักเรื่องการใช้รถที่จะช่วยลดต้นทุนได้ในสภาวะน้ำมันแพง
- ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ยุคใหม่ ต้องให้ความสำคัญกับ Digital Transformation
- ‘ธุรกิจขนส่ง’ ใช้แนวคิดระบบลีน (LEAN) มาช่วยลดต้นทุน-เพิ่มกำไร แบบไหนได้บ้าง?
อ่านข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในแวดวงนี้ก่อนใครได้ที่นี่
เฟซบุ๊ก : BUS & TRUCK
เว็บไซต์ข่าว : www.BusAndTruckMedia.com
เว็บไซต์งาน : www.BusAndTruckExpo.com