เป็นเรื่องปกติที่หลายท่านคงทราบดีว่า เมื่อต้องจอดรถไว้หรือไม่ได้ขับเป็นเวลานาน อาจจะเป็นหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน ย่อมมีความเสี่ยงที่จะทำให้มีผลเสียกับรถ ทั้งในเรื่องของการเสื่อมสภาพ และอีกสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นจากสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ที่มักเขามารุกรานรถของคุณ บทความชิ้นนี้ทีมงาน BUS & TRUCK จึงขอหยิบยกเอาประเด็นปัญหาที่เกิดจากเจ้าสัตว์ตัวน้อยที่คอยทำร้ายรถคุณเมื่อคุณเผลอ พร้อมกับวิธีป้องกันและรับมือ นั่นคือ นก, มด, งู, หนู และแมลงสาบ
- นก
แน่นอนว่าปัญหานี้มักเลี่ยงไม่ได้เมื่อคุณต้องนำรถออกไปใช้ข้างนอกหรือจอดตามพื้นที่ที่ต้องอยู่ใกล้กับต้นไม้และเสาไฟฟ้า ซึ่งสิ่งที่คุณต้องกลับมาเจอคือเหตุการณ์ “ขี้นกตกใส่รถ” หลายคนอาจจะปลอบใจตัวเองว่าการโดนขี้นกที่ตกใส่รถโดยบังเอิญนั้นถือเคล็ดและเรื่องโชคลาภ แต่คงจะไม่ดีต่อสีรถสวยๆ ของคุณเป็นแน่
ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมานั้นย่อมมีแน่นอน เพราะขี้นกนี้มีฤทธิ์เป็นกรดถ้าปล่อยทิ้งไว้นานไม่ขจัดออกตั้งแต่แรกมันจะกัดสีรถให้เกิดเป็นรอยด่างทางที่ดีควรให้รีบใช้น้ำสะอาดฉีดล้างออก หรือใช้กระดาษชำระเช็ดออก แต่ทางที่ดีที่สุดคุณควรนำรถไปล้าง เพราะการล้างรถยังเป็นการทำความสะอาดที่ดีที่สุด หรือถ้ามีเวลาเพิ่มและมีงบอีกนิดหน่อยก็ควรขัดเคลือบสีด้วยเลยยิ่งดี
- มด
หากใครเคยเจอปัญหามดขึ้นรถก็น่าจะเข้าใจดีว่ามันมีผลเสียขนาดไหน เพราะนอกจากจะโดนมดกัดขณะนั่งอยู่ในรถยนต์แล้ว ยังมีความเสี่ยงที่รถจะเกิดความเสียหายต่าง เช่น มดจะข้าไปวางไข่หรือสร้างรังในแผงวงจรต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมถึงสายไฟต่างๆอาจเสื่อมสภาพหรือถูกกัดกร่อนส่งผลให้การนำสัญญาณหรือกระแสไฟทำได้ไม่ดี นำไปสุ่การทำงานผิดปกติได้
ดังนั้นใครที่กำลังประสบปัญหามดขึ้นรถ และต้องหาวิธีกำจัดมดให้หมดไป อาจลองใช้วิธีดังนี้ดูก็ได้ เช่น การทำความสะอาดภายในห้องโดยสารและเก็บเศษอาหารที่อยู่ภายในรถให้หมด หากใครไม่มีเวลาก็สามารถเอาไปที่ร้านคาร์แคร์ได้, นำรถไปจอดไว้กลางแดด แล้วเปิดกระจกรถทิ้งไว้สักพัก ความร้อนจากแสงแดดจะทำให้มดที่อยู่ในรถทนไม่ไหวจนหนีออกมาเอง และน้ำยากำจัดมดหรือกำจัดแมลง ซึ่งมีจำหน่ายตามช้อปปี้และลาซาด้า ที่เป็นแบบสำหรับรถยนต์เลย โดยฉีดเข้าไปในตัวรถแล้วปิดประตูปิดกระจกรถให้สนิท แล้วปล่อยไว้สักพัก จากนั้นค่อยมาเปิดประตูเปิดกระจกเพื่อระบายกลิ่นยาออกไป
- งู
เพราะตามธรรมชาติของงูแล้ว มันชอบอยู่ในพื้นที่สงบ มีความอบอุ่นที่พอดี โดยส่วนใหญ่เวลางูเข้ารถมันจะชอบไปซุกตัวอยู่บริเวณห้องเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่เป็นสาเหตุให้งูเข้ารถได้อีก เช่น สัตว์ที่เป็นอาหารของงูอย่างหนูหรือสัตว์ขนาดเล็กชนิดอื่นเข้าไปหลบในรถหรือบริเวณห้องเครื่อง จึงทำให้งูเลื้อยตามเข้ามาเพื่อกินสัตว์เหล่านั้นเป็นอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องจอดรถไว้บริเวณที่มีหญ้าสูงหรือป่ารกทึบก็อาจเพิ่มโอกาสที่งูจะเข้าไปในรถคุณได้
ดังนั้น จึงต้องหาวิธีป้องกันไว้ เช่น นำผงกำมะถันมาผสมกับน้ำคนให้เข้ากัน แล้วนำไปเทราดรอบ ๆ บริเวณพื้นที่จอดรถหรือรอบ ๆ ตัวรถ เพื่อไม่ให้งูเข้าใกล้เพราะกำมะถันนับเป็นสิ่งที่งูไม่ชอบเพราะมีกลิ่นฉุน, หลีกเลี่ยงการจอดรถในพื้นที่รกหรือมีหญ้าขึ้นสูง เพราะการจอดรถในพื้นที่รกหรือมีหญ้าขึ้นสูง อาจเป็นการเพิ่มโอกาสให้งูเข้ามาในรถได้ง่าย เนื่องจากอยู่ใกล้แหล่งอาศัยและทำให้งูอาจหลบหนีเข้ามาอยู่ในรถ และตรวจเช็ครถยนต์ทุกครั้งก่อนออกเดินทาง ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันงูเท่านั้น ยังถือเป็นการตรวจเช็ครถไปในตัว เพราะหากพบเจอสิ่งผิดปกติจะได้รับแก้ไขอย่างทันท่วงที
- หนู
สำหรับหนูแล้วนอกจากมันจะสร้างความเสียหายในบ้านได้ มันยังยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับรถได้เหมือนกัน เช่น กัดสายไฟและแทะชิ้นส่วนต่างๆ รวมทั้งเข้าไปสร้างความพังพินาศให้กับตู้แอร์ (หนูตายในตู้แอร์) ซึ่งสาเหตุที่หนูจะเข้ามาในรถได้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมันได้กลิ่นอาหาร และอาจเข้ามาหลบอาศัยเพราะรู้สึกว่ารถเป็นพื้นที่ปลอดภัย (ส่วนใหญ่รถที่จอดไว้นานมักจะโดนเสมอ)
ดังนั้น วิธีป้องกันคือต้องหมั่นทำความสะอาดทั้งในห้องเครื่องและห้องโดยสาร รวมถึงไม่ควรทิ้งสิ่งของไว้ในรถ หรือนำนำแอมโมเนียไปวางไว้บริเวณที่จอดรถยนต์ ซึ่งแอมโมเนียจะช่วยไล่หนูได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังสามารถนำน้ำผสมกับพริกป่นฉีดเข้าไปในห้องเครื่อง หากบริเวณไหนที่ทราบว่าหนูเข้ามาและอาศัยอยู่บ่อยครั้งก็ให้ฉีดเน้นเข้าไปตรงนั้น เมื่อหนูเข้ามาคราวหหน้าก็จะรู้สึกแสบจนไม่อยากเข้ามาในห้องเครื่องอีก
- แมลงสาบ
ถ้าเห็นแมลงสาบเพียง 1 ตัว ในเวลากลางวัน อาจนำมาสู่ปัญหาตามมามากมาย เพราะที่ยังไม่เห็นมีเป็นฝูงเลยก็ได้ เนื่องจากธรรมชาติของแมลงสาบนั้นมักจะออกอาหารในเวลากลางคืน ซึ่งถ้าคุณเห็นมันออกมาตอนกลางวันภายในรถ ที่เห็นนั้นเป็นไปได้สูงมากที่รถของคุณคือจะเป็นที่อาศัยของพวกมัน ทั้งนี้ ผลกระทบของแมลงสาบที่เข้ามาในรถ นอกจากจะเป็นพาหะนำโรคแล้วยังมีโอกาสที่จะทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่เพราะตกใจก็เป็นได้
ดังนั้น ถ้าอยากป้องกันไม่ให้แมลงสาบมาบุกรถของคุณ ควรหลีกเลี่ยงการนำอาหารขึ้นไปกินบนรถ เพราะแมลงสาบชอบอาหารเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว หากบรรถมีเศษอาหารหรือกลิ่นอาหาร ก็จะยิ่งล่อให้แมลงสาบมาเยือนรถได้ แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ก็ควรหมั่นทำความสะอาดรถหลังนำอาหารขึ้นไปทานโดยทันทีอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงเปลือกส้มและเปลือกมะนาว ซึ่งเป็นกลิ่นที่แมลงสาบไม่ชอบ โดยนำเปลือกส้มและเปลือกมะนาวใส่ภาชนะไปวางไว้ในรถ ซึ่งนอกจากจะไล่แมลงสาบได้แล้ว ยังสามารถใช้ไล่มดได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการดุแลป้องกันรถจากสัตว์ที่อาจคุกคามซึ่งถือเป็นปัจจัยภายนอกแล้ว คุณควรหมั่นดูแลรักษาขั้นพื้นฐานตัวรถด้วย เพราะถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของรถ ทั้งชิ้นส่วนอะไหล่ และเครื่องยนต์ ซึ่งหากผู้ใช้งานตรวจเช็ค และดูแลเป็นประจำ ก็จะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพ การเกิดอุบัติเหตุ และการสึกหรอต่าง ๆ ได้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง