ปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังตัดสินใจซื้อรถใหม่และยกให้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV เป็นหนึ่งในตัวเลือก ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขยอดขายและการสั่งจองในช่วงที่ผ่านมา เพราะด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ประสิทธิภาพของยานยนต์ และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้ว ยังช่วยสร้างการเดินทางที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ขณะที่ภาครัฐเองก็ส่งเสริมเต็มที่ ด้วยนโยบาย 30@30 ซึ่งเป็นแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศ ด้วยการตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือ รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030  พร้อมส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งมาตรการทางภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงเตรียมความพร้อมระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้ารอบด้าน (EV Ecosystem) เพื่อให้ผู้ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าเกิดความมั่นใจที่จะตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

ซึ่งเรื่องนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยังได้สนับสนุนธุรกิจระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรภายใต้สถานีชาร์จไฟฟ้าแบรนด์ “EleX by EGAT” ที่ให้บริการทั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า Platform บริหารสถานีชาร์จไฟฟ้า “BackEN” และแอปพลิเคชัน “EleXA” ช่วยอำนวยความสะดวกการใช้งาน “จอง ชาร์จ จ่าย”

โดยปัจจุบันมีสถานีชาร์จไฟฟ้ากว่า 104 สถานีทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า มุ่งเน้นให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันรวมทั้งเดินทางได้ทั่วประเทศ ด้วยความมั่นใจ

ตั้งเป้า 150 สถานีชาร์จ สร้างความมั่นใจทั่วประเทศ

สำหรับปี 2566 นี้ กฟผ. ได้ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วประเทศให้มีจำนวนรวมกว่า 150 สถานี เพื่อให้ครอบคลุมทุกจังหวัดมากขึ้น โดยแต่ละสถานีมีระยะห่างกันไม่เกิน 100 กิโลเมตร สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน EleXA ได้ทุกสถานี  โดยล่าสุดได้เปิดสถานีชาร์จ EleX by EGAT เต็มรูปแบบแห่งแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน รองรับการใช้งาน 2 ช่องจอด ประกอบด้วยเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว (DC Fast Charge) ขนาด 125 กิโลวัตต์ 2 หัวชาร์จ และเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 22 กิโลวัตต์ 1 หัวชาร์จ 

ทั้งนี้ ถือเป็นการรองรับผู้เดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ผ่านทางอำเภอปายมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตลอดจนรองรับขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้าเชียงใหม่–แม่ฮ่องสอน ที่จะเปิดให้บริการในอนาคต ช่วยคลายความกังวลเรื่องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในต่างจังหวัดว่าจะไม่มีสถานีชาร์จได้อีกด้วย

EV Charging

จับมือพันธมิตรขยายการติดตั้งสถานีชาร์จ

นอกจากนี้ ยังจับมือกับพันธมิตร ขยายสถานีชาร์จอย่างต่อเนื่อง อาทิ สถานีชาร์จ EleX by EGAT x BMW ที่ One Nimman จ.เชียงใหม่ รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภาคเหนือ เปิดให้บริการ 3 หัวชาร์จ 2 ช่องจอด ประกอบด้วยเครื่องชาร์จแบบเร็ว (DC Fast Charge) ขนาด 125 กิโลวัตต์ 2 หัวชาร์จ และเครื่องชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 22 กิโลวัตต์ 1 หัวชาร์จ

รวมถึงจับมือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดสถานีชาร์จ EleX by EGAT แห่งแรกที่ให้บริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ณ อาคารจอดแล้วจร สถานีแยกนนทบุรี 1 ของรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) รองรับรถยนต์ EV ได้ 5 ช่องจอด แบ่งเป็นหัวชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 7.4 kW 3 หัวชาร์จ ที่บริเวณภายในอาคารจอดรถ และขนาด 22 kW 2 หัวชาร์จ ที่บริเวณภายนอกอาคารจอดรถ

รวมทั้ง ยังมีการเปิดให้บริการสถานีชาร์จ ณ ลานจอดแล้วจร สถานีสามย่าน ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) เมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย

ปลุกกระแส EV ภายในองค์กร มีหัวชาร์จมากสุดประเทศ

ล่าสุด เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าภายในองค์กร  กฟผ. ได้เปิดตัว EV Charging Floor ภายในพื้นที่ลานจอดรถในสำนักงานใหญ่ กฟผ. จังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วย เครื่องชาร์จจำนวน 66  หัวชาร์จ เป็นหัวชาร์จด้วยความเร็วปกติ AC Normal Charge ขนาด 7.4 kW 110 ช่องจอด (รวมช่องจอดรอชาร์จ)

ส่งผลให้สถานีชาร์จแห่งนี้เป็นสถานีที่มีจำนวนหัวชาร์จมากที่สุดในประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความมั่นใจในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้กับบุคลากรในองค์กร โดยมุ่งสร้างให้สถานีชาร์จดังกล่าวเป็นต้นแบบโมเดล EV Charging Floor สำหรับอาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย และพื้นที่จอดรถอื่นๆ ให้กับผู้ที่สนใจได้เป็นอย่างดี

ชาร์จไฟที่บ้าน ประหยัด-สะดวก-สบาย

นอกจากการชาร์จไฟที่สถานีชาร์จแล้ว เครื่องชาร์จไฟฟ้าตามบ้านก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้รถ EV ด้วยราคาที่จับต้องได้ ค่าใช้จ่ายในการชาร์จที่ถูกกว่า และความสะดวกสบาย ชาร์จเมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม กฟผ. ผู้ได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบรนด์ Wallbox ได้รุกตลาดเครื่องชาร์จไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งาน

อาทิ รุ่น Pulsar Max และ Commander 2 ที่ตอบโจทย์สำหรับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ด้วยดีไซน์มินิมอล ทันสมัย จ่ายไฟได้สูงสุด 22 kW พร้อมความสามารถสุดสมาร์ท อำนวยความสะดวกได้ตลอดทั้งวันด้วยการเชื่อมต่อเครื่องชาร์จเข้ากับมือถือผ่าน WiFi หรือ Bluetooth ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน myWallbox สามารถสั่งชาร์จ-หยุดชาร์จ กำหนดตารางเวลาชาร์จ ล็อคเครื่องชาร์จได้ตามใจ และรุ่น Supernova  ที่เหมาะกับภาคธุรกิจ ด้วยความเร็วในการชาร์จเพียง 15 นาที สามารถวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทุกเครื่องสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม EleXA ของ กฟผ. 

เพราะยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ ดังนั้น จึงเห็น ทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยกันผลักดันและร่วมสร้างการเดินทางสีเขียวให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งมาตรการทางภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงเตรียมความพร้อมระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้ารอบด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น

Advertisement