เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตร เช่น ผักและผลไม้ ของไทยมีการขยายตัวเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ขณะเดียวกันยังพบว่ามีดีมานด์การใช้รถหรือยานพาหนะเพื่อการขนส่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น วันนี้เราจึงอยากพูดถึงแนวทางการเตรียมควรพร้อมของผู้ประกอบการขนส่งหรือเจ้าของธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีรถใช้วิ่งงานขนส่งผักหรือผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อให้การจัดส่งผักหรือผลไม้ซึ่งเป็นสินค้าที่ลูกค้ามอบวางไว้วางใจให้เราได้ส่งถึงจุดหมายปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยที่สุด
ความท้าทายในการขนส่งผักหรือผลไม้ทางถนน
อย่างที่ทราบกันว่า การขนส่งทางถนนบ้างก็ใช้รถกระบะหรือรถบรรทุกนั้น มีราคาถูก สะดวก ทั้งยังสามารถวิ่งไปรับผลิตผลได้ทุกที่ และลูกค้ายังสามารถเลือกรถได้หลายขนาดบรรจุจากเล็กถึงใหญ่ แต่การขนส่งทางถนนก็ยังมีข้อเสียอยู่ คือ ถ้าสภาพถนนไม่ดี มีการวางทับซ้อนกันมากจนเกินไป หรือระบบควบคุมอุณหภูมิไม่ดี จะเป็นผลร้ายต่อสินค้า ดังนั้น ผู้ประกอบการขนส่งจึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย
วางแผนในการเดินทางอย่างรอบคอบ
เมื่อรู้แล้วว่าการขนส่งผักหรือผลไม้เป็นสิ่งที่มีความท้าทาย ดังนั้น หากคนขับวางแผนเส้นทางให้ละเอียดเท่าใด รถขนส่งก็ยิ่งใช้เวลาเดินทางน้อยลงเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายถึงการใช้น้ำมันน้อยลงและประหยัดพลังงานได้มากขึ้นด้วย โดยต้องมีการคำนึงถึงเหตุขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างทาง เช่น งานซ่อมบำรุงถนน หรือรถติดจากการเกิดอุบัติเหตุ จะช่วยให้คนขับขับรถพร้อมรับมือกับปัจจัยภายนอก และควบคุมให้การเดินทางรอบนั้น ๆ ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นได้ การรับรู้ถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้าจะช่วยให้คนขับรถเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้แก่คนขับในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และช่วยให้การขนส่งสินค้าเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย
คำนึงถึงความต่างของผักและผลไม้แต่ละชนิด
เนื่องจากผักและผลไม้แต่ละชนิด มีความแตกต่างกันทั้ง ขนาด รูปร่าง ทำให้อาจมีการบอบช้ำหรือเน่าเสียระหว่างการขนส่งได้ ดังนั้น จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยที่แตกต่างกันเหล่านี้ เพื่อเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับรูปร่างและน้ำหนักของสินค้าที่จะทำการขนส่ง หากเป็นผักผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะอาจต้องเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก รวมถึงต้องมีการจัดวางเพื่อไม่ให้น้ำหนักของสินค้ากดทับกันจนเกิดความบอบช้ำได้
คำนึงถึงอุณหภูมิที่ผักและผลไม้ควรได้รับ
ผักผลไม้แต่ละชนิด ต้องการอุณหภูมิความเย็นที่ต่างกัน การลดอุณหภูมิหรือควบคุมอุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก เพื่อไม่ให้สินค้าเกิดความเน่าเสีย ซึ่งการทำความเย็นนั้นมีหลายวิธี และต้องมีการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่รองรับการไหลเวียน การไหลผ่านของอากาศเข้าไปภายในด้วย กรณีนี้อาจมีการเจาะรูรอบ ๆ เพื่อให้อากาศเย็นผ่านเข้าไปอย่างทั่วถึงด้วย
ควรระวังแรงสะเทือนระหว่างขนส่ง
การขนส่งที่ใช้ถนนเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือรถขนส่งสินค้าที่เป็นรถกระบะคอก ก็สามารถเกิดการสั่นสะเทือนจากการวิ่งบนพื้นถนนที่ไม่เรียบได้ เมื่อเกิดการสั่นจึงทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างผักผลไม้ด้วยกันเอง หรือแม้แต่เสียดสีจากบรรจุภัณฑ์ที่หีบห่อก็จะทำให้ผักหรือผลไม้ เกิดการบอบช้ำและเสียหายได้
ระวังสินค้าอาจถูกกดทับมากเกินไป
เพราะสินค้าทางการเกษตรอย่างผักผลไม้ มีความบอบช้ำได้ง่าย ซึ่งการใส่บรรจุภัณฑ์ที่ไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้เกิดกดทับมากเกินไป หรือการจัดวางที่อัดแน่นหลายชั้น จัดวางอย่างไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลให้สินค้าที่อยู่ด้านล่างได้รับแรงกดทับที่มากเกินไป จนเกิดความเสียหายได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นต้องมีแนวทางและแผนรองรับตรงนี้ด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการขนส่ง ควรพึงตระหนักไว้ว่าสินค้าที่เป็นผลผลิตทางการเกษตรนั้น ต้องมีความสดใหม่ ไม่ช้ำเน่าเสียก่อนจะถึงปลายทางหรือถึงมือผู้บริโภค จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ให้ดี เพื่อเตรียมตัวหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน