โดย…สวนเลน
เมื่อเรามองเห็นรถบัสหรือรถโดยสารวิ่งผ่านไป เราก็จะเห็นเพียงรูปภายนอก ถ้าคันไหนสีสันไม่โดดเด่น สวยงาม ก็จะแค่มองผ่าน ๆ แต่ถ้าคันไหนตกแต่งมาสวยงาม ไม่เพียงแค่คนที่ชื่นชอบ คนทั่วไปก็หันมองกันคอแทบเคล็ดเลยทีเดียว
แต่เชื่อหรือไม่ว่า ภายในรถโดยสารนั้น มีอะไรน่าค้นหามากกว่าภายนอกเป็นหลายเท่า เพราะบ้างคันมีการตกแต่งชนิดที่ว่า มีมูลค่าแพงกว่าตัวรถด้วยซ้ำ และถ้าใครมีเงินถุงเงินถังจำนวนมาก ๆ อาจจะมีการดัดแปลงเป็นรถบ้าน หรือรถกิจการพิเศษใด ๆ ก็ได้ตามจิตนาการของตนเอง
เช่นเดียวกับรถบัส BE TIME ที่ได้นำไอเดียการทำสมาธิเคลื่อนที่ออกสู่ท้องถนน โดยBE TIME ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่ที่เงียบสงบ สะดวกสบาย และไม่มีใครคาดคิดว่าจะสามารถถือปฏิบัติในการทำสมาธิของพวกเขาได้ในรถ
ในขณะเดียวกันไอเดียการทำสมาธิบนรถบัสนั้น เพียงเพราะไม่ต้องการให้วันหยุดพักยาวมีความวุ่นวาย เพราะทุกเทศกาลนั้น การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก สตูดิโอเคลื่อนที่บนรถบัส BE TIME จึงเกิดขึ้น นอกจากนี้ รถบัส BE TIME ยังได้นำมาเป็นสถานที่ฝึกสมาธิเพื่อเลี่ยงหนีความวุ่นวาย
รถบัส BE TIME ออกแบบโดยสถาปนิกสองคน คือ rolando rodriguez leal และ natalia wrzask ผู้ก่อตั้งสตูดิโอของ Aidia ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกับ zaha hadid, louis vuitton jean nouvel ใน abu dhabi
การเปลี่ยนโฉมรถให้กลายเป็นสตูดิโอการทำสมาธิไฮเทคผ่านการติดตั้งแผ่นกระจกตัดแสงเลเซอร์ที่ไม่เหมือนใคร และการประสานงานในการออกแบบส่วนประกอบระบบเสียงและแสงทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่าคุณลักษณะการออกแบบที่ซับซ้อนทั้งหมดนี้มีความกลมกลืนกัน
ทั้งนี้ BE TIME เชื่อว่า ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า การนั่งสมาธิเพียง 10-20 นาทีต่อวัน ช่วยเพิ่มผลผลิตและความคิดสร้างสรรค์ได้ ที่สำคัญช่วยลดความเครียดความวิตกกังวล และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งช่วยให้อาการนอนไม่หลับดีขึ้น
จากไอเดียที่นำรถบัสมาปรับเป็นสตูดิโอการทำสมาธิ ถือเป็นธุรกิจที่กำลังแจ้งเกิดในอเมริกาบริเวณพื้นที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย เพราะนักเรียนเมื่อมีความเครียดก็ต้องมีจุดทำสมาธิที่รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งมีราคาไม่เบาทีเดียว 30 นาที ราคา 300 บาท แต่อาจจะมีราคาโปรโมชั่นแล้วแต่สถานการณ์
แน่นอนว่า รถบัสการทำสมาธิอาจจะไม่เกิดขึ้นในไทย แต่นักธุรกิจไทยอาจจะได้ไอเดียจากธุรกิจนี้ และอาจจะมีไอเดียการนำรถบัสไปปรับเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ดีกว่าก็เป็นไปได้